เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเมื่อวันที่ 26 ส.ค. ศาลฎีกา มีคำสั่งให้นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาคดี ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง รุกที่ป่าเขาใหญ่ ทำให้แกนนำพรรคภูมิใจไทยจับตาดูท่าทีว่า นางกนกวรณ จะลาออกจากตำแหน่ง รมช.ศึกษาธิการ หรือไม่

ขณะเดียวกัน ทางพรรคภูมิใจไทยมีการจัดเตรียมบุคคลที่จะมาทดแทนตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งคาดกันว่า น่าจะเป็นนายชยุต ภุมมะกาญจนะ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคภูมิใจไทย เนื่องจากเป็นโควตาเดิม จ.ปราจีนบุรี ประกอบกับนายชยุต เป็น ส.ส.มาหลายสมัย ซึ่งถือว่ามีความอาวุโสทางการเมือง อีกทั้งรุ่นบิดาเคยเป็นรัฐมนตรี ก็มีความสัมพันธ์กับนายสุนทร วิลาวัลย์ บิดาของนางกนกวรรณ จึงเป็นที่คาดการณ์ว่า หากนางกนกวรรณลาออก นายชยุตจะมานั่งในตำแหน่ง รมช.ศึกษาธิการ

นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวอีกด้าน คือ นายบุญลือ ประเสริฐโสภา ส.ส.ราชบุรี พรรคภูมิใจไทย ที่อดีตเคยเป็น รมช.ศึกษาธิการ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่ามีการรวบรวม ส.ส. เพื่อต่อรองขอเป็นรัฐมนตรีมาแล้วเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม การจะปรับ ครม.เมื่อไหร่นั้น คงต้องรอดูท่าทีนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งในวันที่ 14 ก.ย. นี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะนัดวินิจฉัยว่าจะสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ จากกรณีเคยถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา ทำให้กลายเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือไม่

รวมทั้ง ต้องรอดูท่าทีของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ว่าจะปรับ ครม.ในจังหวะนี้หรือไม่ เนื่องจากจะมีตำแหน่ง รมช. โควตาพรรคพลังประชารัฐ อีก 2 คน เพื่อเตรียมพร้อมการเลือกตั้ง หรือสุดท้ายจะรอความชัดเจนเกี่ยวกับสถานะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ว่าจะเป็นอย่างไร ที่คาดว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยในเดือน ก.ย.

ต่อมานายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง และโฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคเตรียมเสนอชื่อนายชยุต นั่งในตำแหน่งรมช.ศึกษาธิการ แทน นางกนกวรรณ ว่าเป็นเรื่องของคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ต้องประชุมหารือ และคัดตัวผู้ที่มีความเหมาะสม ภายหลังตำแหน่งรัฐมนตรีว่างลง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นางกนกวรรณ ยังไม่ได้ถูกให้ออกจากตำแหน่งเพียงแค่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น

เมื่อถามถึง กระแสข่าวการยุบสภามีความเป็นไปได้หรือไม่ นายภราดร กล่าวว่า เมื่อเข้าสู่ปีสุดท้ายของวาระ 4 ปีสถานการณ์การเมืองมักเกิดความไม่แน่นอน ส่วนเรื่องยุบสภาเป็นอำนาจของนายกฯ ซึ่งพรรค ภท.
เตรียมความพร้อมอยู่ตลอดสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่.