โดยคาดการณ์ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือนในการพิจารณาและมีมติชี้ขาดว่า “บิ๊กตู่” จะได้หวนคืนเก้าอี้นายกฯ หรือไม่ ส่งผลให้พี่ใหญ่ 3 ป. บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ขึ้นมาทำหน้าที่รักษาการนายกฯ โดยอัตโนมัติ พร้อมอำนาจเต็มเหมือนนายกฯ ตัวจริง ทั้งเรื่องยุบสภาหรือแต่งตั้งโยกย้าย 

ขณะที่ความเห็นของ จรัญ ภักดีธนากุล” อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มองว่าโอกาสรอดของ “บิ๊กตู่” น่าจะมีน้อย จากประสบการณ์ส่วนตัวให้น้ำหนัก 60 ต่อ 40 เหตุศาลใช้วิธีพิจารณาจากดุลยภาพระหว่างประโยชน์และโทษต่อบ้านเมือง หลังการให้พักปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ซึ่งอาจทำให้ “บิ๊กตู่” ต้องลงเก้าอี้หยุดพักยาว และนำไปสู่การที่ ครม.ต้องพ้นตำแหน่งทั้งคณะหรือไม่  

มรสุมที่ถาโถมรัฐบาลเรือแป๊ะในจังหวะเวลานี้ยังไม่หยุด เมื่อล่าสุดศาลฎีกา รับคำร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (ป.ป.ช.) และสั่งให้ “ครูโอ๊ะ”กนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาฯ จากค่ายภูมิใจไทย ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ เหตุฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงกรณีรุกป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.ปราจีนบุรี   

อีกทั้งยังต้องลุ้นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 14 ก.ย. นี้ กรณีประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า “นิพนธ์ บุญญามณี” รมช.มหาดไทย และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต้องหลุดเก้าอี้ มท.2 ปมขาดคุณสมบัติการรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส. หรือไม่  

ขณะที่ความเคลื่อนไหวฟากพรรคร่วมรัฐบาล แม้ เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะบอกว่า “ครูโอ๊ะ” ยังเป็นรมช.ศึกษาฯ แต่ทางพรรคก็เปิดชื่อ “ชยุต ภุมมะกาญจนะ” ส.ส.ปราจีนบุรี และ “บุญลือ ประเสริฐโสภา” ส.ส.ราชบุรี พรรคภูมิใจไทย ออกมาจองโควตาเก้าอี้ รมช.ศึกษาฯ แทนครูโอ๊ะ ที่อาจตัดสินลาออกจากตำแหน่งหรือไม่ ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐเองก็มีเก้าอี้ รมช.ว่างอยู่ 2 ตำแหน่ง ซึ่งคนใกล้ชิดรักษาการนายกฯ ทั้งในพรรคและนอกพรรคจ้องตาเป็นมัน   

ด้านซีกพรรคฝ่ายค้านที่เรียกร้องมาตลอดระยะเวลากว่า 3 ปีที่ผ่านมา ก็มีทีท่ากลัวการยุบสภาเอาเสียดื้อๆ เพราะกฎหมายลูกเลือกตั้งที่ยังไม่แล้วเสร็จ อาจทำให้เสียเปรียบในเรื่องกฎกติกาเลือกตั้ง และเกิดสุญญากาศทางการเมืองหนักกว่าเดิม  

จุดนี้จึงต้องวัดใจ “บิ๊กป้อม” ในฐานะรักษาการนายกฯ ว่าจะเลือกทางไหนระหว่างปรับ ครม. หรือยุบสภาล้างไพ่การเมืองใหม่ ก่อนศาลรัฐธรรมนูญจะชี้ขาดปมเก้าอี้นายกฯ ของ “บิ๊กตู่” หรือไม่.