เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนางดวงเดือน ประเสริฐศิลป์ อายุ 58 แม่ค้าส้มตำ ติดกับที่ทำการชุมชนบริรักษ์บำรุง ซอยโรงเรือ ถนนบริรักษ์บำรุง ต.ท้ายช้าง อ.เมือง จ.พังงา ว่ามี ทวดหญิงวัย 70 ปี ทนทำงานดูแลเหลน 2 คน อายุเพียง 8 ขวบ และ 5 ขวบ ส่วนแม่ของเด็กซึ่งเป็นหลาน หายจากบ้านนานกว่า 2 เดือนแล้ว

ผู้สื่อข่าวจึงเข้าตรวจสอบเหตุดังกล่าว ที่บ้านเช่าเลขที่ 105/1 หมู่ 3 ต.นบปริง อ.เมืองพังงา ซึ่งมีนางประทุมมา สมฤทธิ์ อายุ 70 ปี ที่อยู่ 31 หมู่ 2 ต.บ้านเสด็จ อ.เมืองลำปาง เป็นผู้เช่า พร้อมเด็กๆ อีก 2 คน อยู่ในวัยน่ารักน่าเอ็นดู

นางประทุมมา เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนเองเดินทางมาอาศัยใน จ.พังงา นานกว่า 20 ปี โดยมีลูกสาวและหลานสาว ชื่อ น.ส.แพรวพรรณ สมฤทธิ์ ปัจจุบันอายุ 27 ปี ส่วนลูกสาวเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ กระทั่งหลานสาวมีลูกๆ ตนเองจึงเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กๆ ส่วนพ่อเด็กได้แยกทางกันมานานแล้ว ตนเองและหลานสาว ช่วยกันเลี้ยงดูเด็กๆ มาตลอด กระทั่งเมื่อช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา หลานสาวแจ้งว่าจะออกจากบ้านไปหางานทำในจังหวัดใกล้เคียง

จากนั้นไม่ติดต่อมาอีกเลย ครั้งสุดท้ายเมื่อกลางเดือนกรกฎาคม 2565 หลานสาวโทรฯ มาแจ้งว่าอยู่ที่ ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา จะกลับบ้านขอเงินจำนวน 200 บาท ตนเองจึงโอนเงินให้ แต่หลานสาวกลับเงียบหาย จึงพยายามติดต่อทั้งโทรศัพท์ ติดต่อทางFacebook, Line ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้ตนเองเป็นห่วงและเกรงว่าจะเป็นอันตราย อีกทั้งต้องการให้หลานสาวกลับมาดูแลเหลนทั้งคู่ เนื่องจากตนเองอายุมาก ใกล้จะทำงานไม่ได้ เพราะแก่ตัวลงทุกวัน ซึ่งตนเองต้องการกลับบ้านที่ลำปาง แต่ไม่มีเงิน อีกทั้งเหลนคนเล็กตนเองหนักใจมาก เนื่องจากอายุ 5 ขวบ น่าจะสื่อสารพูดจาได้ แต่กลับพูดจาไม่รู้เรื่อง จึงอยากให้ภาครัฐเข้าช่วยเหลือบ้าง

ด้านนางดวงเดือน ประเสริฐศิลป์ อายุ 58 แม่ค้าส้มตำ ผู้แจ้งเรื่องนี้ กล่าวว่า ตนเองเป็นคนบ้านเดียวกับทวดเล็ก ซึ่งทวดเล็ก มักมาปรึกษาขอความช่วยเหลือจากตนเองว่า ทำอย่างไรกับเหตุนี้ได้บ้าง ซึ่งตนเองมองว่า แม่เด็กไม่น่าจะกลับมาหาลูก โดยแม่เด็กมีพฤติกรรมติดเกมออนไลน์อย่างหนัก อยากบอกแม่เด็กว่า กลับมาดูแลลูกๆ และกลับมาหาหนทางช่วยเหลือกัน