เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนแจ้งวัฒนะ นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เป็นประธานการประชุม ก.อ. ครั้งที่ 10 /2565

โดยมีวาระสำคัญเรื่อง การพิจารณาเลื่อนตำแหน่งและแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการอัยการตั้งแต่ระดับ

ตั้งแต่ระดับรองระดับรองอัยการสูงสุด จำนวน 8 ราย, ผู้ตรวจการอัยการ 9 ราย, อธิบดีอัยการ 81 ราย, รองอธิบดีอัยการ 100 ราย, อัยการพิเศษฝ่าย 146 ราย, ข้าราชการอัยการชั้น 6 จำนวน 87 ราย, ข้าราชการอัยการชั้น 5 จำนวน 109 ราย, ข้าราชการอัยการชั้น 4 สับเปลี่ยนตำแหน่ง จำนวน 6 ราย, ข้าราชการอัยการชั้น 4 จำนวน 121 ราย, ข้าราชการอัยการชั้น 3 จำนวน 121 ราย, อัยการอาวุโสสับเปลี่ยน 34 ราย และอัยการอาวุโส (ตั้งใหม่) 115 ราย รวม 11 บัญชี

รวมทั้งหมด 937 บัญชีรายชื่อ ซึ่งมีการพิจารณาเสร็จในช่วงค่ำที่ผ่านมานี้

โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.65 เป็นต้นไป

โดยมีรายชื่อที่น่าสนใจดังนี้

1.เลื่อนนายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อธิบดีอัยการสำนักงานวิชาการ ขึ้นรองอัยการสูงสุดอันดับ 1 มีคิวที่จะขึ้นนั่งตำแหน่งอัยการสูงสุดต่อจาก น.ส.นารี ตัณฑเสถียร ซึ่งจะขึ้นดำรงตำแหน่ง 1 ต.ค.65 นี้ เป็น ก.อ.โดยตำแหน่ง

2.เลื่อนนายสมเกียรติ คุววัฒนานนท์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงขึ้นรองอัยการสูงสุดอันดับ 2 ก็จะมีคิวที่จะขึ้นนั่งตำแหน่งอัยการสูงสุดต่อจากนายอำนาจ ที่จะนั่งรอง อสส.อาวุโสลำดับ 1 เช่นกัน เป็น ก.อ.โดยตำแหน่ง

3.เลื่อนนายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลแขวง ซึ่งมีขอบเขตอำนาจพิจารณาสั่งคดีแขวงทั้งหมดในพื้นที่กรุงเทพฯขึ้นรองอัยการสูงสุดอันดับ 3 โดยก่อนหน้านี้เคยนั่งอธิบดีอัยการสำนักงานการยุติการดำเนินคดีแพ่งและอนุญาโตตุลาการ  มีผลงานในการพัฒนาปรับระบบการทำงานเพิ่มคุณภาพการดำเนินคดีอนุญาโตตุลาการอำนวยความสะดวกในงานคดีต่าง ๆ ซึ่งการขึ้นรอง อสส.อาวุโสลำดับ3 ครั้งนี้เท่ากับนายไพรัชจะสามารถเป็น ก.อ.โดยตำแหน่งได้นานถึง 3 ปีจนกว่าจะพ้นวาระบริหาร

ทั้งในอดีตเคยดำรงตำแหน่งเลขานุการอัยการสูงสุดสมัยนายชัยเกษม นิติสิริ

4.เลื่อนนายศักดา ช่วงรังษี อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาตลิ่งชัน ไปเป็นรอง อสส.ลำดับ4  เลขาธิการสำนักอบรมศึกษาแห่งเนติบัณฑิตยสภาหรือครูใหญ่เนฯ รวมถึงยังได้รับการเลือกตั้งเป็น ก.อ. เป็นศิษย์เก่าสวนกุหลาบ ดีกรีนักเรียนนอก จบ ป.โทด้านกฎหมายจาก ฮาร์วาร์ด และ ป.โท จากมหาวิทยาลัยดีคิ่น รุ่น 28

5.เลื่อนนายอิทธิพร แก้วทิพย์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ซึ่งเป็นสำนักงานสำคัญแบ่งเป็น 12 กองงาน ที่จะมีคดีใหญ่สำคัญเข้าในพื้นที่สำคัญจาก สน.ต่างๆ ในพื้นที่หลัก รวมถึงรับคดีจากกองปราบปรามเข้ามาพิจารณาสั่งคดีไปเป็นรอง อสส.อาวุโสลำดับ 6 มีคิวที่จะขึ้นถึงอัยการสูงสุดในอนาคตด้วย

6.เลื่อนนายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ อธิบดีอัยการสำนักงานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) ซึ่งเป็นสำนักงานสำคัญมีบทบาทดูแลทำบัญชีเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการอัยการทั่วประเทศ อดีตโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดไปเป็นผู้ตรวจการอัยการอาวุโสลำดับที่ 8

ระดับอธิบดีอัยการที่น่าสนใจ

1. นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจ โยกไปเป็น อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ซึ่งเป็นสำนักงานสำคัญรับพิจารณาสำนวนคดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ และคดีป้องกันและปราบ ปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.ซึ่งจะต้องเป็นคดีที่มีมูลค่าทีัพย์ความเสียหายจำนวนมากมีอิทธิพลเข้ามาในคดีรวมถึงคดีการเมืองและการชุมนุมของม๊อบการเมืองต่างๆ นายวิรุฬห์เคยเป็นลูกหม้อเก่าของสำนักงานอัยการคดีพิเศษเคยผ่านงานสำคัญมามาก เป็นที่รู้จักในวงการอัยการ เคยเป็นเจ้าของสำนวนคดี กปปส.ที่ศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษแกนนำหลายคน หรือคดีลูกอดีตอดีตนักการเมืองระดับประเทศฟอกเงิน

2. นายปรีชา สุดสงวน อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญามีนบุรี โยกไปเป็น อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ซึ่งถือเป็นสำนักงานที่รับคดีอาญาอุกฉกรรจ์และมีความสำคัญจาก สน.ต่างๆ ในพื้นที่หลัก รวมถึงรับคดีจากกองปราบปราม แบ่งเป็น 12 กองงาน รวมทั้งนั่งเป็นสำนักงานที่มีหน้าที่แก้ต่างคดีอาญาให้กับข้าราชการทั่วประเทศที่ถูกฟ้องเพราะปฏิบัติราชการตามหน้าที่

3.นายโกวิท ศรีไพโรจน์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามทุจริตภาค 8 โยกไปเป็น อธิบดีอัยการสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการ ซึ่งถือเป็นโรงเรียนอัยการ โดยมีบทบาทในการจัดอบรมบรรยายปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรบทบาทหน้าที่ของอัยการผู้ช่วยที่สอบได้รวมถึงพัฒนาเพิ่มพูลทักษะของข้าราชการอัยการทั้งหมด จากประวัตินายโกวิท เป็นอัยการสายบู๊ ดูงานคดีลูกหม้อสำนักงานคดีพิเศษเก่า เคยรับผิดชอบคดีม็อบการเมืองและคดีผู้มีอิทธิพลสำคัญ ก่อนย้ายกลับไปภาคใต้ก็มีบทบาทในเรื่องคดีที่เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและคดีเจ้าหน้าที่ประพฤติมิชอบ และยังเป็นคิวที่จะขึ้นดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดในอนาคต

4. เลื่อนนายเพียรศักดิ์ สมบัติทอง รองอธิบดีอัยการภาค 2 ขึ้นดำรงตำแหน่ง อธิบดีสำนักงานคณะกรรมการอัยการ ซึ่งเป็นสำนักงานสำคัญมีบทบาทดูแลจัดทำบัญชี เรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการอัยการทั่วประเทศซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญ การขยับขึ้นมานั่งตำแหน่งนี้จากการขึ้นอธิบดีอัยการครั้งแรกคาดว่าได้รับความไว้วางใจและการผลักดันจากผู้ใหญ่เพื่อมาทำหน้าที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นเรื่องบัญชีข้าราชการอัยการหรือการผลักดันแก้ไขกฎหมาย

ระดับรองอธิบดีอัยการที่น่าสนใจ

1.นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลแขวง โยกไปเป็น รองอธิบดีอัยการสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี หรือ สคช. ซึ่งเป็นสำนักงานที่จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย (สคช.)

สำหรับ นายโกศลวัฒน์ ถือเป็นระดับรองอธิบดีอัยการที่คิวอาวุโสสูงสุดในขณะนี้ เคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักกิจการและโครงการในพระดำริพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา สำนักงานอัยการสูงสุด เคยดำรงตำแหน่งรองโฆษกอัยการฯ มาหลายสมัยมีบทบาทสำคัญในด้านการสนับสนุนการทำงานช่วยเหลือสังคมและผู้ด้อยโอกาสมาโดยตลอด สนับสนุนผู้บำเพ็ญประโยชน์ด้วยการมอบรางวัล “คนดีที่เรายกย่อง” เคยออกหน้าประสานงานด้านกฎหมายช่วยเหลือน้องปาล์ม เด็กที่โดนรถของกระทรวงสาธารณสุขชนจนพิการตลอดชีวิต ซึ่งภายหลังชนะคดีได้รับค่าเสียหายตามคำพิพากษาของศาล เมื่อครั้งโดนย้ายไปเป็นรองอธิบดีภาค 9 ก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นโฆษกอัยการปราบปรามทุจริตภาค 9 แถลงผลงานการดำเนินคดีทุจริตฯในภาค พร้อมให้ความรู้กฎหมายประชาชนและข้าราชการเกี่ยวกับคดีทุจริตฯ เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติไม่ให้ต้องคดี ซึ่งได้รับการตอบรับชื่นชม บทบาทที่ผ่านมาของนายโกศลวัฒน์ ถือเป็นอัยการที่ทำหน้าที่ให้แก่ส่วนรวมและผลประโยชน์สาธารณะนับว่าเหมาะกับอัยการ สคช.อย่างมาก

2. เลื่อนนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 2 ขึ้นรองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน สำหรับ นายวัชรินทร์ เป็นถือเป็นอัยการมือสอบสวน ฝีมือดีเคยได้รางวัลอัยการดีเด่น จบหลักสูตรเอฟบีไอ จากสหรัฐ รุ่นเดียวกับ บิ๊กดำ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีดีเอสไอ โดยมีผลงานสมัยอยู่สอบสวนลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนลุยคดีปล้นปืน ได้รับคำสั่งให้ร่วมสอบสวนคดีสำคัญหลายคดีจำนวนมาก อาทิคดีฟอกเงิน สหกรณ์รถไฟ, คดีรถหรู, เสาไฟกินรี ยังไปเป็นที่ปรึกษา สปสช. ทั้งยังเป็นอาจารย์สอนหนังสือในมหาวิทยาลัยและบรรยายวิชากฎหมายให้หน่วยงานต่างๆ มีลูกศิษย์ให้ความเคารพรักเป็นจำนวนมาก การขึ้นตำแหน่งในสำนักงานเดิมที่นายวัชรินทร์เป็นลูกหม้อ อยู่ที่ว่ามีความเหมาะสมและพัฒนาสำนักงานเพิ่มมากขึ้น

ส่วน นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ รอบนี้ยังรักษาเก้าอี้เหนียวแน่น สำหรับนายประยุทธ มีบทบาทเป็นที่รู้จักในฐานะรองโฆษกอัยการฯ ที่โดดเด่น โดยนั่งตำแหน่งในทีมโฆษกมายาวนานถึง7 ปีซ้อน รับหน้าที่แถลงคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและคดีใหญ่สะเทือนขวัญ สำคัญหลายคดี ให้กับสื่อมวลชนและประชาชนเข้าใจชัดแจ้ง รวมถึงมีบทบาทการสร้างภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือขององค์กรเป็นอย่างมาก ในฐานะอัยการก็ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญงานสายคดี จากที่เข้ามาทำงานคดีพิเศษ และเติบโตเป็นระดับรองอธิบดีที่สำนักงานนี้แสดงว่าได้รับไว้เนื้อเชื่อใจจากผู้บริหาร เพราะสำนักงานคดีพิเศษเป็นสำนักงานที่รับพิจารณาสำนวนคดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ และคดีป้องกันและปราบ ปรามการฟอกเงิน หรือปปง.ซึ่งรวมถึงคดีการเมืองและการชุมนุมของม๊อบการเมืองต่างๆสำนักงานดังกล่าวจึงมีบทบาทสำคัญ

นายประยุทธ จบหลักสูตร วปอ. รุ่นที่ 59 จากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร เคยดำรงตำแหน่งอัยการจังหวัดหลายจังหวัด เช่น อัยการจังหวัดสมุทรปราการ อัยการจังหวัดสระบุรี อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงอุบลราชธานี จากนั้นขยับดำรงตำแหน่งอัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการอยู่ 4 ปี ก่อนจะเลื่อนขึ้นไปดำรงตำแหน่งอัยการพิเศษฝ่ายสำนักยุทธศาสตร์และงบประมาณ รับผิดชอบการบริหารจัดการด้านอาคารและที่ดินของสำนักงานอัยการสูงสุด ยังได้รับแต่งตั้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมให้เป็นผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ของกระทรวงยุติธรรม และเป็นประธานพัฒนากฎหมายและอนุกรรมการพัฒนากฎหมายของหน่วยราชการอีกหลายคณะ

ระดับอัยการอาวุโสที่น่าสนใจ

1. นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อัยการสูงสุดคนปัจจุบันไปเป็นอัยการอาวุโสสำนักงานอัยการสูงสุด (ที่ปรึกษาอัยการสูงสุด)

2. นายชาติพงษ์ จีระพันธุ รองอัยการสูงสุดลำดับที่ 1 ไปเป็น อัยการอาวุโส สำนักงานชี้ขาดคดีสำนักงานอัยการสูงสุด สำหรับ นายชาติพงษ์ ขึ้นชื่อในฝีมือเรื่องปราบการทุจริตฯ มีประสบการณ์มาก เคยนั่งรองอธิบดีคดีพิเศษ เป็นหัวหน้าคณะทำงานที่คุมคดีสำคัญ ของสำนักงานคดีพิเศษหลายคดี เช่น คดีนิติบุคคล ฟิลิป มอร์ริส นำเข้าบุหรี่โดยหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร, คดีทุจริต สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น, คดีทุจริต การฟอกเงินในโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน รวมถึงคดีเศรษฐกิจที่มีความซับซ้อน เป็นอัยการมีฝีมือ ประสบการณ์มาก สมัยเป็นรอง อสส.เบอร์ 1 ซึ่งเป็น ก.อ. โดยตำแหน่งก็ทำหน้าที่ได้ดี

ขึ้นชื่อเรื่องเป็นคนเที่ยงตรง รักและปกป้องชื่อเสียงองค์กร จนเป็นที่ไว้วางใจให้เป็นกรรมการสอบข้อเท็จจริงและวินัยอัยการด้วยกันหลายคน

3.นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี ไปเป็น อัยการอาวุโสสำนักงานการสอบสวน สำหรับ นายปรเมศวร์ถือเป็นอัยการหน้าสื่อชื่อดังที่ออกมาให้ความเห็นข้อกฎหมายและความเห็นในการวิจารณ์ทางการเมืองอย่างดุเดือด หรือคดีที่สังคมให้ความสนใจ อย่างคดีโฉนดถุงกล้วยแขกวัดสวนแก้ว ก็ออกมาระบุมั่นใจเต็มร้อยว่าพระพยอมต้องได้เงิน 10 ล้านบาทคืนตามที่ได้ซื้อที่ดินโดยสุจริต

โดยก่อนหน้านี้ นายปรเมศวร์มีคิวที่จะได้ขึ้นถึงรองอัยการสูงสุด แต่ขณะนั้น ก.อ.มีการเสนอชื่อโปรดเกล้าฯ ให้เป็นผู้ตรวจการอัยการแต่ไม่ผ่านการพิจารณา เนื่องจากเคยโดนคดีดื่มสุราขับรถชนแล้วหนี แต่ต่อมาภายหลังผู้บัญชาการตำรวจภาค 1 ทำความเห็นแย้งในข้อหาชนแล้วหนี โดยอัยการสูงสุดในขณะนั้นชี้ขาดยื่นฟ้องเฉพาะข้อหาเมาแล้วขับชนอย่างเดียว ซึ่งภายหลังศาลพิพากษาจำคุกและรอลงอาญาไว้ โดยปัจจุบันนายปรเมศวร์ทำหน้าที่อธิบดีอัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด โดยยังไม่ได้โปรดเกล้าฯออกจากอธิบดีอัยการสำนักงานอาญาธนบุรีเดิม

นายสุวิช ชูตระกูล อธิบดีอัยการภาค 7 ไปเป็น อัยการอาวุโส สคช.ปทุมธานี นายสุวิช เป็นผู้ได้รับเลือกจากตั้งให้เป็น ก.อ. ประเภท ข้าราชการอัยการชั้น 5 ขึ้นไป ที่ผ่านมาด้วยคะแนนสูงสุด

สามารถตรวจดูรายชื่อได้ตามลิงค์ข้างล่าง