จากกรณีที่เพจข่าวสารเมืองปราการv 2 ได้โพสต์คลิปวิดีโอความยาว 26 วินาที พร้อมกับระบุข้อความเอาไว้ว่า มิติใหม่แห่งการตักบาตรโดยที่ไม่ต้องลุกจากที่นอน อยากใส่บาตร ไม่ต้องไปถึงที่แล้วนะในขณะที่เลื่อนชอปปิงของใน Tiktok (ติ๊กต็อก) เพราะนอนไม่หลับ สิ่งนี้ทำฉันว้าวที่สุด ในตอน 6 โมงเช้าคือ การ live ขายของใส่บาตร พร้อมเขียนชื่อ-นามสกุล และใส่บาตรให้ ลูกค้าแค่โอนก็ได้ใส่บาตรแล้ว ไอเดียดีมาก ยุคนี้ใครไม่ปรับตัว อยู่ไม่รอดนะบอกเลย แล้วคือร้านขายดีจนสงสารพระ รับของไม่ทัน 5555 หลังจากที่เพจได้มีการโพสต์ลงไป​ ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก ถึงความเหมาะสมว่า พระยืนรับบาตรแบบนี้ผิดวินัยสงฆ์หรือไม่ ของที่ใส่บาตรมีการนำมาเวียนขายซ้ำหรือไม่ ซึ่งก็มีบางคอมเมนต์ที่เห็นด้วยกับการทำบุญออนไลน์แบบนี้ มองว่าดีที่ทางร้านเป็นสะพานบุญ

ล่าสุดเมื่อที่ 19 ก.ย. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่ร้านค้าดังกล่าวชื่อ “รานข้าวแกงเฮียโก๋” อยู่ในตลาดบางฆ้อง ถนนศรีสมุทร ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พบเป็นร้านขายข้าวแกงและของใส่บาตร โดยมี 2 สามีภรรยาไลฟ์สดขายข้าวแกงเป็นชุดใส่บาตรผ่านแอพพลิเคชั่นติ๊กต็อก โดยมีประชาชนให้ความสนใจโอนเงินซื้อชุดข้าวแกงใส่บาตรจำนวนมาก

ด้านนายวรพงศ์ ทัศนา อายุ 45 ปี เจ้าของร้านข้าวแกงเฮียโก๋ เปิดเผยว่า ซึ่งปกติทางร้านมีลูกค้าประจำเป็นคนไทยที่อยู่ต่างประเทศสนใจทำบุญออนไลน์ด้วยอยู่แล้ว ทางร้านจะไลฟ์สดเปิดให้จองชุดใส่บาตรตั้งแต่ช่วงเวลา 05.30-07.00 น.โดยการเขียนชื่อนามสกุลคนที่ซื้อผ่านออนไลน์ใส่ไปในถุง และจะนิมนต์พระสงฆ์ที่เดินผ่านร้านเพื่อใส่บาตรและให้คนที่ทำบุญออนไลน์รับพรกับพระสงฆ์กันแบบสดๆ โดยที่ไม่มีการนำชุดใส่บาตรมาเวียนขายซ้ำ และพระสงฆ์ก็ไม่ได้ยืนปักหลักเพื่อรับบาตรที่หน้าร้านอย่างที่ชาวเน็ตตั้งข้อสงสัย

“ตนเปิดร้านขายข้าวแกงใส่บาตรที่ตลาดแห่งนี้มาเกือบ 9 ปี เมื่อเดือนที่แล้ว ตนไลฟ์สดอยู่ ลูกค้าถามตนว่าทำอะไร ตนเลยบอกว่ากำลังทำกับข้าวใส่บาตรส่งพ่อค้าแม่ค้าในตลาดบางฆ้อง ลูกค้าเลยขอฝากทำบุญด้วย เพราะต้องดูแลแม่ที่ป่วยติดเตียงไม่สามารถออกมาทำบุญได้ ตนเลยมองว่าเป็นการดีที่เป็นสะพานบุญให้คนอื่น ซึ่งแนวคิดนี้ตนคิดเองไม่ได้ลอกเลียนแบบใครทำด้วยใจซื่อบริสุทธิ์ ตนไลฟ์สดขายชุดใส่บาตรแบบนี้มาได้เดือนกว่าแล้ว โดยมีลูกค้าประจำและขาจรในออนไลน์หลายคน วันหนึ่งจะขายผ่านออนไลน์ได้ประมาณ 60 ชุด ขายราคาปกติชุดละ 40 บาท แต่ละชุดจะมีแกงหนึ่งถุง ข้าวสวยหนึ่งถุง ขนมหวาน และน้ำดื่ม” เจ้าของรานข้าวแกงเฮียโก๋ กล่าว

ส่วนประเด็นดราม่าในโลกออนไลน์เจ้าของร้านข้าวแกงเฮียโก๋ กล่าวต่อว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะคิด ช่องทางของตนเหมาะสำหรับผู้ป่วยติดเตียง คนที่ไม่มีเวลา และคนไทยที่อยู่ต่างประเทศส่วนคนที่มองตนในแง่ร้าย สักวันเขาจะเข้าใจเองเพราะตนทำด้วยใจบริสุทธิ์ ตนทราบดีว่าการลงโซเชียลเป็นดาบ 2 คม ที่มีทั้งดีและไม่ดี ซึ่งตอนนี้ยอมรับว่าอ่านคอมเมนต์แล้วกระทบต่อจิตใจตนและคนในครอบครัว คนชมก็มี คนด่าก็เยอะ ตนเข้าใจดีว่าไปห้ามความคิดใครไม่ได้ ซึ่งบางวันที่ขายของไม่หมด ตนก็ไปทำทานนำไปให้คนจร คนไร้บ้านในย่านนี้ เพื่อเป็นการทำทาน

เจ้าของร้านข้าวแกงเฮียโก๋ กล่าวทิ้งท้ายว่า พระที่มารับบาตรเดินบิณฑบาตผ่านร้านตนทุกวัน วันละ 6-8 รูป พอเดินผ่านมาตนก็นิมนต์เอาไว้ ไม่ได้จำเพาะเจาะจงว่าจะต้องใส่พระรูปไหน พระท่านไม่ได้นั่งหรือยืนรอรับบาตรที่หน้าร้านอย่างที่โลกโซเชียลตั้งข้อสังเกต และร้านตนไม่เคยนำชุดใส่บาตรมาวนขายใหม่ เพราะตนรู้ดีว่าถ้าทำแบบนั้น ลูกค้าและตนย่อมไม่สบายใจ หลังจากที่มีการเผยแพร่ไปในโลกโซเชียลยอมรับว่ามีผลกระทบ บางคนด่าตนแบบเสียหายโดยที่ยังไม่รู้ข้อเท็จจริง และพระสงฆ์ที่เคยมารับบาตรบางรูปไม่กล้าเดินผ่านร้าน เพราะกลัวชาวพุทธไม่สบายใจ.