ก่อนหน้านี้เป็นดราม่าที่หลายคนสนใจอย่างมากมาย สำหรับเรื่องราวของดารา นางงามและพิธีกรคนดัง บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ที่หยิบจับอะไรก็เป็นกระแสความสนใจตลอด และดราม่าที่คนพูดถึงหนักมากคงหนีไม่พ้นตอนสาวบุ๋มไปลงพื้นที่น้ำท่วม แต่เจอคนแซะผ่านคอมเมนต์ในโลกออนไลน์ว่าทำไมไม่นั่งเรือไป ลุยเดินทำไม ไหนจะเรื่องอักษรย่อ ป.ที่คนโยงเป็นเธอทุกประเด็น โดยสาวบุ๋มเล่าผ่านหลังไปบวงสรวงละคร ปิ่นอนงค์ ที่ กันตนา รัชดา อีกด้วย
บุ๋ม เผยว่า “เรื่องดราม่าคนว่าน้ำท่วมทำไมไม่นั่งเรือ คือเขาเห็นภาพแล้วก็คอมเมนต์เลยว่าทำไมถึงไม่นั่งเรือไป ถ้าเกิดเขาดูไลฟ์ เขาจะไม่มีคำถามเลยว่าทำไมเราไม่ทำอย่างนั้น ทีมบุ๋มไม่เน้นคนเยอะ แต่เน้นของเยอะ เวลาออกไปแจกแต่ละครั้ง เราอยากให้คนได้ของเยอะที่สุด เพียงแต่ด้วยระดับน้ำในวันนั้น ที่เราไปสำรวจมาก่อนหน้า น้องบอกกันว่าประมาณเอว แต่พอวันที่บุ๋มไป ขึ้นมาถึงอก ทำไมไม่ขอการเดินทางมีเรือใหญ่ไป แล้วเราต้องแบกของ เพราะยังมีอีกบ้านที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง เราต้องเอาของไปให้ถึงบ้านเขา เวลาน้ำท่วมคนลำบากที่สุดคือผู้ป่วยติดเตียงกับผู้สูงอายุ เราต้องเอาของไปให้เขาก่อนพวกแพมเพิส สิ่งของจำเป็น ข้าวสารอาหารแห้ง เราต้องแบกขึ้นหัวไปเพราะว่ามีถนนคั่น เราเลยต้องถ่ายรูปถนนให้ดูว่าที่ไปมีถนนคั่น ซึ่งอีกวันมันท่วมแล้ว ถัดจากวันที่บุ๋มไปมันอาจจะขึ้นอีก อาจจะเอาเรือเข้าไปได้ แต่ก็ไม่ใช่เรือใหญ่นะ เป็นเรือเล็กๆ พูดตรงๆ ไม่ได้อยากจะเดิน การจะลงไปเสี่ยงน้ำท่วมโดยที่เราไม่รู้ว่าตรงนั้นมีอะไรบ้าง น้ำไม่ได้สะอาด แต่ด้วยความตั้งใจ เราต้องไปถึงบ้านผู้ป่วยให้ได้ ของมันต้องไปถึงก่อนที่ความช่วยเหลือทุกอย่างมันจะตัดขาดค่ะ”
“ถามว่าปรี๊ดไหม ไม่ปรี๊ดเลย บุ๋มจะปล่อยผ่านด้วย หลังๆ ลองสังเกตบุ๋มจะไม่ค่อยชี้แจงอะไร จะชี้แจงน้อยมาก แต่ถ้าเป็นเรื่องขององค์กรทำดีบุ๋มจะชี้แจง มันไม่ใช่ตัวเราคนเดียว มันเป็นทีมงานทั้งทีมที่เราทำงานกัน เขามาด้วยใจไม่ได้เงินอะไรจากเราเลยสักบาทเดียว เขามาด้วยความรู้สึกดีๆ ที่เขาอยากจะช่วยเหลือคน แต่ถ้าเขาต้องมาเจอกับดราม่า แล้วเขาไม่ใช่คนบันเทิงที่เขาจะรับได้ทั้งหมดเหมือนเรา เราก็เลยต้องชี้แจง เพื่อให้เขาได้รับความเคลียร์ตรงนี้ว่า ทุกคนตั้งใจดีหมด หลังๆ จะปล่อยผ่านดีกว่า เพราะเรามีเป้าหมายใหญ่กว่าที่จะช่วยเหลือคนยังไง ทุกวันนี้ถ้าละครคิวแคนเซิล เราก็จะลงพื้นที่แล้ว ด้วยพลังที่เรามี เราแทบจะไม่เหลือไปทะเลาะกับใครแล้ว เอาเวลาไปช่วยเหลือคนดีกว่า โฟกัสที่เจตนา ด้วยความที่ทีมงานเป็นกู้ภัยที่เป็นผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ เขาจะมีของขึ้นกันง่าย เราก็บอกว่าเดี๋ยวแม่ชี้แจงเอง มันจะได้จบ การบริหารงาน การบริหารคนเยอะๆ บางทีเราต้องดูแลว่าภาพลักษณ์องค์กรเป็นอย่างไร กำลังใจพวกเขาเป็นอย่างไร สิ่งที่เขาตั้งใจทำเป็นอย่างไร ต้องชี้แจงและชัดเจน”
บุ๋ม เล่าต่อว่า “เรื่องบั่นทอนกำลังใจไหม แรกๆ จะมี หลังๆ ก็ยังมีคนพยายามเอารูปของบุ๋มที่เซ็กซี่ เอามาพูดว่าด้วยบทบาทแบบนี้ เซ็กซี่อย่างนี้ มาเปรียบเทียบว่าทำไมถึงไม่ทำตัวให้เป็นตัวอย่าง การทำงาน 10 ปีที่อยู่ตรงนี้ บุ๋มสู้จนเปลี่ยนกฎหมายมาเยอะมากแล้ว มันเป็นการพิสูจน์ว่าผู้หญิงต่อให้แต่งตัวยังไงก็โดนข่มขืนได้นะ ทำไมไม่โทษผู้ร้ายแต่มาโทษที่ตัวเราเหมือนคนที่ปล้นร้านทอง แล้วจะไปด่าเจ้าของร้านทองเหรอว่า แขวนทองไว้อย่างนั้น ทำไมไม่โทษคนปล้น คุณต้องไปโทษคนกระทำความผิดสิ ไม่ใช่ไปโทษคนที่เขาใช้ชีวิตปกติของเขา เขามีสิทธิจะแต่งตัวยังไงก็ได้ นี่คือข้อพิสูจน์ที่บุ๋มต้องสู้กับข้อครหา คำด่าที่เขามาด่าแต่เราลบๆ แต่ไม่เคยด่าผู้ร้าย เราเลยรู้สึกว่าตรรกะอะไรที่มันป่วยมากๆ หลังๆ ก็ปล่อยผ่าน ทำงานของเราต่อดีกว่า อะไรที่ต้องสู้คดีต่างๆ เรื่องข่มขืนหรืออะไร เราก็ทำของเราต่อเหมือนเดิม แต่ถ้ามาแตะกับพี่น้องของบุ๋ม แตะลูกๆ บุ๋ม ก็พร้อมชน บุ๋มต้องเป็นแม่ของทุกคนที่เรากางปีกปกป้องเขา มันไม่ใช่งานง่ายเลยนะ กับการบริหารองค์กรใหญ่ๆ ระดับประเทศอย่างนี้”
“อยากจะบอกนะคะว่า ทุกดราม่าไม่ต้องวกมาหาดิฉันบ้างก็ได้นะคะ ไม่ว่าจะเรื่องดราม่าจานข้าวหมา ดารา ป. พัวพัน forex 3d ไม่ได้นะคะ ให้ไปสะเดาะเคราะห์บ่อยๆ ก็ไม่ไหวนะ ไม่ต้องให้ดิฉันอยู่ทุกข่าวก็ได้ (ยิ้ม) เรื่องลงหน้าทองคือเรื่องของเรื่องเพิ่งไปลงอาบแดดมา แล้ววันนี้มาบวงสรวง เลยคิดว่าเพื่องานที่เขาจะไม่มาด่าเรา กับงานส่วนตัวของเราก็เลยต้องดูแลตัวเองนิดหนึ่ง ช่างเลยบอกเอาอย่างนี้ไหม คุณบุ๋มสปาทอง เราเลยคิดถึงเพลงนะหน้าทองขึ้นมา เลยบอกคนเทอราปีว่าขอเล่นติ๊กต็อกแป๊บหนึ่งนะ ก็ลงเพลงนะหน้าทองไป ทีนี้ฟีดแบ็กมาเลยว่า แม่ทำที่ไหน (หัวเราะ) ดิฉันไม่ได้ปลุกเสก ใจเย็นๆ ดิฉันไม่ได้เล่นของ ดิฉันทำสปา เอาแล้วปนัดดา ลูกๆ บอกถ้าแม่เล่นเราต้องเล่น มาถามกันใหญ่แม่ทำที่ไหน”
ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม boompanadda
