เมื่อวันที่ 27 ก.ย. เจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งจากพนักงาน ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ใกล้กับสี่แยกวัดพระญาติ ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ว่าได้ควบคุมตัวลูกค้าเป็นหญิงสาวที่ก่อเหตุขโมยผลปรุงรส 3 ซอง ผงชูรส 2 ซอง ขนมเค้กช็อกโกแลต 1 กล่อง รวมมูลค่า 300 บาท ซุกไว้ในกระเป๋า ภายหลังเดินทางไปตรวจสอบ พบ น.ส.ฝน อายุ 36 ปี ชาว จ.สุรินทร์ อยู่ในสภาพเนื้อตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว พอเห็นตำรวจก็ยกมือไหว้พร้อมกับร้องไห้ และขอโทษทางร้าน เนื่องจากต้องกลับไปดูแลลูกเล็ก 3 คน บางช่วงถึงกับเครียดใช้มือทุบหัวทำร้ายตัวเอง พร้อมกับบอกว่าไม่น่าคิดสั้นเลย ทางเจ้าหน้าที่ต้องเข้าควบคุมตัวไปโรงพักเพื่อให้สงบสติอารมณ์

จากการสอบสวน น.ส.ฝน ให้การอ้างว่า ตนทำงานเป็นแคดดี้สนามกอล์ฟแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา แต่เพราะช่วงเดือนที่ผ่านมาไม่ค่อยมีลูกค้ามาใช้บริการสนามกอล์ฟ ทำให้ขาดรายได้ จนเหลือเงินติดตัวเพียง 80 บาท ไม่พอซื้ออาหารให้ลูกกิน สุดท้ายตัดสินใจขโมยเอาผลปรุงรส ผงชูรส หวังจะเอาไปขาย และเอาเค้กช็อกโกแลตไปให้ลูกกินประทังหิว แต่ก็โดนจับกุมจนได้ ขณะที่สามีไม่มีงานทำ ตนจึงกลายเป็นเสาหลักของครอบครัว หลังถูกจับรู้สึกเป็นห่วงลูกที่กำลังเรียนหนังสือ คนโตเรียนอยู่ชั้น ป.3 คนกลางชั้น ป.1 ส่วนคนเล็กยังเรียนอยู่ชั้นอนุบาล

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่แจ้งข้อหา พร้อมกับประสานกับทางพนักงานร้านค้า เพื่อขอจ่ายเงินจำนวน 300 บาท ชดเชยค่าเสียหายให้แทน แต่ทางพนักงานยืนยันว่าไม่สามารถทำได้ อ้างว่าต้องทำตามระเบียบของบริษัท แม้ทรัพย์สินจะเล็กน้อยก็ต้องดำเนินคดีเฉียบขาดเอาผิดให้ถึงที่สุด ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น จยย.ของผู้ก่อเหตุยังพบว่ามี ผงชูรสจำนวนหนึ่งด้วย ซึ่งไม่ทราบว่าไปซื้อมาจากไหน หรือไปก่อเหตุลักขโมยมาอีกหรือไม่ จากนั้นจึงแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้าน พ.ต.อ.ประเวศ ศรีนาค ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนเร่งรัดคดีให้สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ส่งฟ้องอัยการสู่ขบวนการฟ้องศาลในวันพรุ่งนี้ ส่วนโทษจะจำหรือปรับอยู่ที่ศาลจะพิจารณาคดีอย่างไร ถึงแม้มูลค่าราคาทรัพย์สินไม่มากแต่เป็นคดีอาญามีโทษทั้งจำทั้งปรับ ทางตำรวจได้ประสานงานไปยังสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าตรวจสอบข้อมูลช่วยเหลืออีกทางแล้ว

ขณะที่ นายภาณุวัฒน์ กษิดิศ นักสังคมสงเคราะห์ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เดินทางเข้ามาช่วยเหลือเก็บข้อมูลสู่การช่วยเหลือครอบครัว และจะเดินทางไปตรวจสอบสภาพครอบครัวของแคดดี้รายนี้ ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่โรงถ่านเก่า ใน อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ภายหลังกล่าวว่า จากการพูดคุยกับ น.ส.ฝน แล้ว ทำให้ทราบว่า ผู้เป็นแม่ทำงานอยู่คนเดียว ขณะที่สามีไม่ยอมทำงานและขอเงินภรรยาใช้จ่ายกินเหล้า สูบบุหรี่เป็นประจำ หากไม่ให้ก็จะโดนทำร้ายร่างกาย ส่วนลูก 3 คน ต้องทนกินข้าวกับไข่ต้มมา 3 วันแล้ว หลังถูกจับก็ไม่รู้ว่าจะมีข้าวกินอีกหรือไม่ และหากศาลตัดสินให้จ่ายค่าปรับ ก็คงไม่มีเงินอีกเช่นกัน ต้องยอมติดคุกแทนค่าปรับเท่านั้น ทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะหาทางช่วยเหลือครอบครัวนี้ต่อไป.