เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถนนแจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี น.ส.วิยะดา (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี พร้อมญาติเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ให้ช่วยเหลือหลังทำงานเป็นพนักงานผสมสารเคมีในโรงงานผลิตผงเชื่อมและแม่พิมพ์แห่งหนึ่งใน ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี แล้วเกิดอุบัติเหตุสารเคมีติดไฟจนลุกไหม้ท่วมตัวตั้งแต่ศีรษะไปจนถึงปลายเท้า ได้รับบาดเจ็บสาหัสต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลนานกว่า 11 เดือน นอกจากนี้ ยังต้องเซ็นรับผิดชอบหนี้ค่ารักษาพยาบาลเองกว่า 2.8 ล้านบาท

น.ส.วิยะดา กล่าวว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 ก.ค.64 ขณะทำงานในโรงงานร่วมกับพี่พนักงานอีกคน ได้นำสารเคมี 2 ชนิดมาผสมกันเหมือนปกติที่เคยทำ ซึ่งสารเคมีดังกล่าวไม่ทราบชื่อ รู้แต่เพียงว่าเมื่อผสมกันแล้วจะสามารถติดไฟได้เอง ขณะที่ทำอยู่นั้นเห็นประกายไฟพุ่งขึ้นมาจากสารเคมีอย่างรวดเร็ว จึงได้รีบผลักพี่พนักงานอีกคนหนึ่งออกไป แต่จังหวะที่จะวิ่งหนีตนกลับเสียหลักล้มเลยถูกไฟจากสารเคมีคลอกตัวบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะมีพนักงานในโรงงานเข้ามาช่วยเหลือพาตัวส่ง รพ.บางบัวทอง แต่มีบาดแผลไฟลวกทั้งตัวกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ จึงถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ โดยแพทย์ให้พักรักษาตัวอยู่ในห้องปลอดเชื้อ หลังพักรักษาตัวอยู่นานกว่า 11 เดือน จึงกลับมาพักฟื้นต่อที่บ้าน แต่เนื่องจากแผลที่เกิดจากไฟไหม้ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้จะยืนลุกนั่งหรือเดินไม่ได้

หลังเกิดเรื่องทางโรงงานจ่ายเงินเดือนให้ตนเดือนละ 9,500 บาทตลอดที่รักษาตัว แต่หลังจากกลับมารักษาตัวที่บ้าน ทางโรงงานก็ไม่จ่ายเงินเดือน พอสอบถามไปเจ้าของโรงงานบอกว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเพราะตน ทางโรงงานเป็นผู้เสียหาย แต่จะช่วยเหลือเยียวยาให้เดือนละ 4,000 บาท เป็นเวลา 5 ปี ซึ่งก็งงว่าตนเป็นผู้เสียหายถูกไฟคลอก แต่ทำไมเจ้าของโรงงานบอกตนเป็นคนผิด จึงปฏิเสธไม่รับเงินช่วยเหลือ ต่อมาทางโรงงานได้เสนอมาอีกครั้งว่าจะช่วยเหลือให้เงินเดือนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 10 ปี ซึ่งตนปรึกษากับญาติๆ แล้วทุกคนไม่เห็นด้วย เพราะต้องกลายเป็นคนพิการ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทุกวันนี้ต้องให้อาผู้หญิงคอยมาดูแล หาโจ๊กให้กินเพราะกินอย่างอื่นไม่ได้เลย จะลุกนั่งหรือไปเข้าห้องน้ำก็ทำเองไม่ได้ จึงได้ขอเงินช่วยเหลือจากทางโรงงานไป 1,000,000 บาท แต่ก็โดนปฏิเสธ จึงเดินทางมาร้องทนายรณณรงค์ให้ช่วยเหลือเรื่องคดี

ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า หลังรับเรื่องร้องเรียนจากน้องผู้เสียหายแล้ว ในวันพรุ่งนี้ (30 ก.ย.) จะพาน้องไปยื่นเรื่องที่ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนนทบุรี ให้เข้าไปตรวจสอบว่าที่โรงงานดังกล่าวทำถูกต้องหรือไม่ ที่ให้คนที่ไม่มีความรู้เรื่องสารเคมีที่ติดไฟได้ง่ายขนาดนี้ไปทำ มีวิศวกรหรือช่างที่เชี่ยวชาญดูแลการผลิตหรือเปล่า อุปกรณ์ในการป้องกันขณะทำงานมีไหม เท่าที่ทราบจากน้องผู้เสียหาย มีเพียงถุงมือ 1 คู่ กับหน้ากากอนามัย หากตรวจสอบแล้วพบโรงงานไม่ได้ปฏิบัติตามที่กฎกระทรวงแรงงานกำหนดไว้ว่า แรงงานอุตสาหกรรมบางประเภทอย่าง เช่น การผสมสารเคมีต้องมีมาตรฐานความปลอดภัยอย่างไร ถ้าโรงงานไม่มี ถือว่าโรงงานประมาทเลินเล่อ ต้องรับผิดชอบ