เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลางดึกที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากนางวันดี ตันดิลก อายุ 68 ปี นายไมตรี อินทนาม อายุ 72 ปี สองสามีภรรยา เจ้าของบ้าน ชาว ต.เกาะเกร็ด หมู่ 5 อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ว่า ข้างฝาบ้านถูกแรงดันน้ำที่ไหลแรงและมีปริมาณมาก เนื่องจากฝนตกหนักติดต่อกันนานหลายชั่วโมง ทำให้ปูนข้างฝาบ้านต้านน้ำไม่ไหว เกิดเสียงระเบิดดังเปรี้ยง ก่อนปูนฝาบ้านจะระเบิดแตกหัก ทำให้น้ำทะลักเข้าไปในบ้านจมทั้งหลังในพริบตา ตู้เย็น พัดลม ทีวี ถูกแรงดันน้ำพัดกระเด็นไปคนละทิศคนละทางจมน้ำพังเสียหายทั้งหมด เจ้าของบ้านต้องวิ่งหนีตาย โชคดีที่รีบไปตัดกระไฟฟ้าได้ทัน ไม่อย่างนั้นอาจจะมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการถูกไฟดูด

นางวันดี กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.11 น. สามีตนได้ยินเสียงฝาบ้านดังแล้วมาบอก ซึ่งตนก็ได้ยินเสียงดังเปรี้ยะบริเวณฝาบ้านเหมือนกันจึงตะโกนเรียกลูกสาวชื่อเก๋ มาช่วยดูฝาบ้านที่กำลังจะถล่ม จากนั้นหลังจากได้ยินเสียงไม่นานฝาบ้านก็พังลงมาทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้า ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า รวมถึงกระจกหน้าห้องแตกกระจายได้รับความเสียหาย เหตุการณ์วันนี้เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดมาก่อน ตอนเกิดเหตุตนหยิบกางเกงขาสั้นออกจากบ้านมาเพียงตัวเดียวเนื่องจากต้องเอาชีวิตรอดก่อน ก็ถือว่าโชคดีที่ตนและครอบครัวไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่คืนนี้ตนและสามียังเป็นห่วงบ้านคงไม่ได้หลับไม่ได้นอนก็น่าจะอาศัยนั่งพักนอนพัก ซื้อยากันยุงมาจุดที่ศาลาวัดมะขามทองชั่วคราวไปก่อนเพราะตอนนี้บ้านพังไม่มีที่อยู่

ขณะที่นายไมตรี กล่าวว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ฝนตกหนักทำให้น้ำขึ้นเร็วและแรง เมื่อคืนที่ผ่านมา ตนได้ยินเสียงกระเบื้องดังจากพื้นภายในบ้าน จึงตะโกนบอกคนในครอบครัวให้รีบวิ่งออกจากบ้าน ก่อนฝาบ้านพังลงมาทำให้ทรัพย์สินมีค่าพังเสียหาย ซึ่งบ้านหลังนี้ตนอาศัยมานานกว่า 10 ปีแล้ว

นางเกศริน อินทนาม อายุ 36 ปี ลูกสาว กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตอนเกิดเหตุตะโกนเรียกทั้งครอบครัวที่อยู่ในบ้านให้รีบวิ่งออกมา เนื่องจากบ้านตนเป็นบ้าน 2 ชั้น กลัวชั้นบนจะถล่มลงมา ความรู้สึกของตนตอนนี้มันจุกในอกเพราะว่าชีวิตตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว เหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วมาก จนไม่สามามารถหยิบสิ่งของที่มีมูลค่าออกมาได้เลย ตอนนี้ก็เหลือเพียงเสื้อผ้าเพียงตัวเดียวที่ใส่อยู่ ตนไม่รู้จะเริ่มชีวิตใหม่ยังไง ขายของก็ไม่ได้เนื่องจากน้ำท่วม เงินทองก็ไม่มีที่จะสามารถสร้างบ้านหรือที่อยู่อาศัยใหม่ได้ รวมถึงลูกๆ ก็ต้องให้หยุดเรียนหนังสือไปก่อน เพราะไม่มีชุดนักเรียนแต่งไปโรงเรียน