กรณีแก๊งค้ายาเสพติด เหิมเกริมระห่ำ ขับรถยนต์ 4 คัน ยกพวก 20 คน พร้อมอาวุธครบมือ อ้างตัวเป็นตำรวจ สภ.รัตภูมิ บุกชิงตัวผู้ต้องหาค้ายาเสพติด ขณะปลัด พร้อม อส.ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง จ.สงขลา นำตัวไปสอบสวนขยายผลล่อซื้อ บริเวณทางเข้าบ้านนิคมร่วมพัฒนา หมู่ 11 ต.แพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา พื้นที่ สภ.รัตภูมิ เมื่อช่วงค่ำคืนวันที่ 18 ต.ค. พร้อมปล้นอาวุธปืนประจำกายของเจ้าหน้าที่ไป 5 กระบอก รถเก๋ง 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง และยาบ้าของกลาง 10 มัด รวม 2 หมื่นเม็ด แต่ไม่ได้ตัวผู้ต้องหาไป เพราะอยู่ในรถอีกคัน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เร่งไล่ล่าแก๊งโจรเหิมบุกชิงตัวคนร้าย ปล้นยาบ้า-ปืนจนท.ยังไม่ชัดกลุ่มไหน

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานแนวทางการสืบสวนสอบสวน หลังสอบปากคำทั้งปลัด และ อส.อีก 5 นาย รวมทั้งผู้ต้องหาค้ายาเสพติดที่ถูกจับกุมเสร็จสิ้น ได้ข้อมูลพอจะรู้ตัวกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว เป็นกลุ่มนักค้ายาเสพติดเครือข่ายใหญ่ในพื้นที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา และภาคใต้ ขณะที่หลักฐานวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี ทราบเบาะแสแล้วว่า รถมิตซูบิชิ มิราช สีดำ ทะเบียน กจ 5064 กรุงเทพมหานคร ของปลัดขับเข้าไปในพื้นที่ใด อยู่ระหว่างติดตามกลับมา คาดว่าพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักเสนอศาลจังหวัดสงขลา ออกหมายจับได้บางส่วน

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า คดีนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน เพราะถือว่าเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจไม่ยำเกรงกฎหมายบ้านเมือง จึงเพิ่มทีมสืบสวนของตำรวจของปราบปราม กองกำกับการ 6 ขึ้นมาร่วมคลี่คลายคดีอีก 1 ชุด ขณะที่ช่วงบ่ายของวันนี้ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร. เดินทางมา สภ.รัตภูมิ เพื่อประชุมสรุปความคืบหน้าการสืบสวนทั้งหมด และแถลงรายละเอียดอีกครั้ง

ขณะเดียวกันทีมข่าวเฉพาะกิจ รายงานเบื้องต้นจากแนวทางการสืบสวนคาดว่า เป็นทีมค้ายาเสพติดและทีมมือปืน ซุ้ม “ต้น ป่าบอน” เครือข่ายยาบ้าใน จ.พัทลุง และสันนิษฐานว่า น่าจะมีกลุ่มคนมีสี เป็นคนแจ้งข้อมูลและมีการวางแผนในพื้นที่ ต.ทุ่งนารี อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ก่อนรวบรวมสมาชิกแก๊งกว่า 20 คน พร้อมอาวุธปืน มาก่อเหตุปล้นดังกล่าว ล่าสุดทีมกองปราบปราม ประสานงานกับตำรวจ สส.บช.ภ.9 และ พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง กระจายกำลังลงพื้นที่ อ.ป่าบอน ไล่ล่าตัวแล้ว รวมทั้งมีการประสานงานกับ บช.ภ.8 และ จว.นครศรีธรรมราช พื้นที่ติดต่อด้วย เนื่องจากมีเบาะแสว่า คนร้ายส่วนหนึ่งใน อ.ป่าบอน แยกตัวหนีเข้าพื้นที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช

แหล่งข่าวรายงานด้วยว่า คดีนี้ยังมีพิรุธหลายเรื่อง เช่นหลังการจับกุมยาเสพติดแล้ว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมไม่นำของกลางและผู้ต้องหามาส่งพนักงานสอบสวน แต่มีการนำตัวผู้ต้องหาและของกลางไปติดต่อล่อซื้อยาเสพติดอีกครั้ง โดยพาทั้งผู้ต้องหาและของกลางไปที่จุดนัดพบด้วย จนทำให้พลาดท่าถูกแก๊งคนร้ายปล้นทั้งปืน-ยาเสพติด หลบหนีไปได้ ที่สำคัญจากการสืบสวนในเชิงลึก ยังเชื่อว่า “คนมีสี” น่าจะมีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปล้น ด้วยการให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม