เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ธีวร์ราธิป ชูดวง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ ร.ต.ท.พีระเกียรติ ศิริฤทัยวัฒนา ร.ต.ท.ไพโรจน์ บุรีรักษ์ ร.ต.ท.ณรงค์ศักดิ์ สนิทไทย จับกุม นายอภิชัย (สงวนนามสกุล) หรือฉายา “แอ็ด พนมทวน” อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงนนทบุรี ที่ 515/2566 ลงวันที่ 20 ต.ค.66 กระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” จับกุมตัวได้ที่ บริเวณโรงงานเหล็ก ถนนแสงชูโต ต.ตะค้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี และตรวจสอบหมายจับในฐานระบบ มีหมายจับติดตัวอีก 1 หมาย ของศาลจังหวัดตราด หมายจับที่ 112/2566 ลงวันที่ 3 พ.ค. 2566 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตโดยหลอกลวงนำเข้าสู่คอมพิวเตอซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมหรือเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”

สืบเนื่องจากตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบในห้วงการระดมปราบปรามอาชญากรรมในช่วงเทศคริสต์มาสและขึ้นปีใหม่ ประจำปี 2567

ต่อมาได้มีผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพซึ่งอ้างว่าเป็นนายหน้า หลอกว่ามีเเรงงานที่จะมาทำงาน ที่ทางผู้เสียหายได้ประกาศรับสมัครพนักงานปั้มเเก๊ส ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินให้มิจฉาชีพ โดยโอนเงินเข้าบัญชีชื่อผู้ต้องหาไปจำนวน 20,000 บาท จากนั้นผู้เสียหายก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย และมีผู้เสียหายอีกรายก็ได้พบประกาศขายรถหัวลากในเฟซบุ๊ก เมื่อผู้เสียหายติดต่อขอซื้อก็ได้โอนเงินเข้าบัญชีชื่อผู้ต้องหาโดยมัดจำไปจำนวน 5,000 บาทจากนั้นมิจฉาชีพได้รับเงินแล้วปิดเฟซหนีจากระบบ เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันสืบสวนและติดตามไปจับกุมตัวนายอภิชัย ไว้ได้

สอบสวนนายอภิชัย ได้รับสารภาพว่า เมื่อ ต้นปี 2566 ตนได้ขายบัญชีธนาคาร แต่จำไม่ได้ว่าธนาคารอะไร จำนวน 2 บัญชี โดยทำการเปิดบัญชีออนไลน์จากนั้นได้ขายบัญชีดังกล่าวให้แก่มิจฉาชีพ ในราคาบัญชีละ 500 บาท หลังจากนั้นก็ไม่ทราบว่ามิจฉาชีพเอาไปหลอกผู้ใด หรือไปกระทำผิดกับใคร

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่างหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย อีกทั้งแจ้งเตือนให้ระมัดระวังการถูกหลอกให้เปิดบัญชีม้า อย่าให้บัญชีธนาคารหรือเปิดบัญชีให้บุคคลอื่นนำไปใช้เด็ดขาดเนื่องจากอาจเป็นช่องทางให้คนร้ายนำบัญชีไปใช้ในการก่ออาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่ในสังคมอย่างมหาศาล ตลอดจนโทษกรณีการเปิดบัญชีม้า ณ ปัจจุบัน มีอัตราโทษหนัก คือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (บัญชีม้า) นอกจากนี้ ผู้เป็นธุระจัดหา จ้างผู้อื่นมาเปิดบัญชีม้าก็มีโทษหนักเช่นเดียวกัน คือ จำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (คนจัดหาบัญชีม้า)