เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงความเป็นห่วงต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม​ ที่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า จากอาการมืออักเสบ ว่าตนก็ต้องเป็นห่วง ซึ่งได้เขียนข้อความไปเยี่ยมท่านนายกฯ และเข้าใจว่าท่านจะอยู่วันสองวัน ซึ่งเราเคยป่วยก็ต้องอยากพัก หากรับแขกเยอะ ๆ จะไม่ค่อยหาย

“ท่านโทรศัพท์มาหาเมื่อบ่ายวันเสาร์ ท่านเป็นห่วงพี่โอ๋ (ศักดิ์สยาม ชิดชอบ) และถามว่าพรรคเป็นอะไร พรรคโอเคไหม ผมก็กราบเรียนไปว่าพรรคโอเคทุกอย่าง และกราบขอบพระคุณ ซึ่งไม่รู้ด้วยซ้ำว่าท่านโทรฯ มาจากโรงพยาบาล พอรู้ก็ขอโทษท่านไป พร้อมส่งข้อความและโทรฯ ไปเยี่ยมท่าน”

ส่วนกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายศักดิ์สยาม เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ในฐานะ รมว.คมนาคม ยุติการปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีชั่วคราวว่า ตอนนี้นายศักดิ์สยามต้องพักการทำงานตั้งแต่วันศุกร์ที่ 4 มี.ค. ที่ผ่านมา ตามคำสั่งศาล และใช้เวลามาทำหน้าที่เลขาฯ พรรคอย่างเต็มที่

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคภูมิใจไทย เสียขวัญทางการเมืองหรือไม่ เพราะเป็นช่วงใกล้เลือกตั้ง นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นช่วง 2 อาทิตย์สุดท้ายของรัฐบาล ก็ยังโอเค เพราะในชีวิตที่ผ่านมามีเรื่องขวัญหนีดีฝ่อมากกว่านี้ ส่วนงานในส่วนของกระทรวงคมนาคมที่ไม่ได้อยู่ในมือพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่มีปัญหา เพราะถ้าเป็นรัฐบาลรักษาการก็ไม่ได้ทำอะไรเยอะ งานปฏิบัติส่วนใหญ่ตกไปที่ปลัดกระทรวง แม้กระทั่งของตนตอนนี้งานประจำอะไรต่าง ๆ ก็ให้ปลัดกกระทรวงสาธารณสุข เข้ามารับผิดชอบมากขึ้น แม้ไม่ใช่กฎหมายแต่เราต้องรู้กฎกติกา มารยาท หากเป็นรักษาการก็ต้องลดบทบาทลงมา เพื่อไม่ให้ได้เปรียบหรือเสรยเปรียบช่วงเลือกตั้ง หากมีเรื่องขึ้นมาก็จะเป็นอุปสรรคในการเดินเข้าสู่การเลือกตั้ง


นายอนุทิน กล่าวถึงกรณี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จะไปยื่น นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม ในฐานะรักษาการ รมว.คมนาคม เพื่อให้ตรวจสอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ว่าคงเป็นอย่างนั้นเพราะ รมว.คมนาคม หยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็ต้องยื่นรักษาการ

เมื่อถามว่า พรรคโดนโจมตีหลายครั้งในช่วงการเลือกตั้ง กังวลจะกระทบคะแนนนิยมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ในพรรคก็คุยกัน ซึ่งแสดงว่ามีเรื่องอะไรที่ฝ่ายตรงข้ามเห็นว่าโดนใจประชาชน ถ้าปล่อยไปจะได้คะแนนมากขึ้นมีช่องก็สกัดไว้ก่อน เขาก็ไม่เสียหายอะไร คนที่สกัดไม่เสียหาย แต่คนที่เสียหายคือประชาชน ซึ่งพรรคภูมิใจไทยขอให้ความมั่นใจว่าเราทำสิ่งที่ดีเพื่อประชาชน

เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่ามีการเตะตัดขาพรรคใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราเป็นพรรคที่ทำงานเยอะ ผลงานที่ออกมาเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและจับต้องได้หมด ทำได้เร็วทำได้เลยแม้ดูพื้น ๆ แต่มีผลประโยชน์ต่อประชาชนเต็มที่ เช่น ล้างไตฟอกไตฟรี ก็มีในยุคภูมิใจไทย 30 บาท รักษาทุกที่ ก็ยุคภูมิใจไทย รวมทั้งการเว้นค่าทางด่วนต่าง ๆ ที่เว้นประจำสำหรับวันหยุดยาวปีหนึ่ง 100 กว่าวันก็ยุคภูมิใจไทย ดังนั้นมีหลาย ๆ เรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นตอนปี 62 หรือปี 54 เลยไม่มีใครสนใจภูมิใจไทย จึงคิดอย่างอื่นไม่ได้ คิดแบบนี้เพื่อคนในพรรคเข้าใจและทำงานหนักขึ้นและชี้แจงประชาชนมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องชี้แจงออกสื่อ แต่เราต้องไปพบปะประชาชนอธิบายให้ฟังว่าภูมิใจไทยทำอะไรให้เขา เชื่อว่าหลังจากนี้ทุกอย่างจะจบไม่เกิน 2 เดือน


นอกจากนี้ นายอนุทิน ยังกล่าวถึงการลงพื้นที่หาเสียง จ.ปทุมธานี ที่ประกาศพร้อมจับมือ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เพื่อเดินหน้าโครงการโมโนเรล จะเป็นพันธมิตรในลักษณะใด โดย นายอนุทิน ชี้แจงว่า มีทีมงานของพล.ต.ท.คำรณวิทย์ มาอยู่กับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งส่วนตัวมองประโยชน์ของ จ.ปทุมธานี เป็นหลัก ไม่มีเรื่องทางการเมือง คนไหนเป็นพวกของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ท่านก็ช่วย ซึ่งช่วยพวกของท่าน ไม่ได้ช่วยพรรค 

ส่วนที่ตนลงพื้นที่ไปได้พูดคุยกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ซี่งก็บอกว่า หากได้ ส.ส.ปทุมธานี ไปก็อย่าลืม โมโนเรล และเครื่องฉายรังสีโรคมะเร็งของคนปทุมฯ อย่าลืมทำให้โรงพยาบาลปทุมธานี เป็นโรงพยาบาลศูนย์ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประชาชนทั้งนั้น ตรงกับเป้าหมายของพรรคภูมิใจไทยอยู่แล้ว โดยเฉพาะโมโนเรล เพราะปทุมธานี เป็นเมืองแห่งการศึกษา มีทางผ่านไปมหาวิทยาลัย​ธรรมศาสตร์ และมีนิคมอุตสาหกรรมมากมาย เป็นเมืองเศรษฐกิจ ถือเป็นชุมทางผ่านไปภาคเหนือและตะวันออก ซึ่งความตั้งใจเหล่านี้ตรงกับพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ก็ดีเป็นการทำงานร่วมกันและไม่ได้มองว่าใครเป็นพรรคไหน ทำเพื่อบ้านเมืองประชาชนอย่างนี้สนุก 

นายอนุทิน กล่าวต่อไปว่า ผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทย อย่าง น.ส.ณัฐธิดา เกียรติพัฒนาชัย หรือ ส.จ.หนึ่ง คนนี้ก็เป็นทีมที่ช่วยนายกเทศบาลรังสิต ซึ่งเป็นลูกชาย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ จึงถือเป็นทีมเดียวกัน แต่วันนี้เขาอยากเล่นสนามใหญ่จึงมาสมัคร และตนมีความสนิทชิดเชื้อกับเฮียเหน่ง พ่อของ ส.จ.หนึ่ง เขาก็ฝากลูกสาวมา ซึ่งถือว่าฟร์อมสด.