จากกรณี “คลับวัน” ผับดังเมืองพัทยา ย่านถนนเพ็ชรตระกูล เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันจังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอบางละมุง เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจังหวัดชลบุรี และ ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เข้าการตรวจสอบ แต่ปรากฏว่า มีการปะทะคารมระหว่าง เจ้าหน้าที่ กับ เจ้าของผับ ตามที่ปรากฏภาพในคลิป ส่วนนักเที่ยวกว่า 200 คน พากันแตกฮือ ไม่ให้ตรวจปัสสาวะ กรูกันวิ่งหนีออกจากผับ ด้านตำรวจยึดห่อพลาสติกใส บรรจุสิ่งคล้ายสารเสพติดเกลื่อนพื้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 พ.ย. มีรายงานว่า พล.ต.ต.ธีระชัย ชํานาญหมอ ผบก.สส.ภาค 2 พร้อมด้วย หน่วยคอมมานโด บูรพา 491 ถือหมายจับ 487/2565 ข้อกล่าวหาแสดง ข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในประวัติทะเบียนราษฎรอันเป็นเอกสารราชการ (บัตรประชาชนปลอม) เข้าทำการจับกุม นายนิติพัฒน์ โชคชัยธนพร หรือกู๋เอี๋ยว อายุ 45 ปี เป็นคนต่างด้าวเชื้อชาติจีน ถือบัตรประชาชนไทย

โดยสามารถจับกุมได้ ที่หน้าศาลจังหวัดพัทยา ระหว่างที่เจ้าตัวเพิ่งออกจากการพิจารณาคดีเก่า “ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ประเภท ​2​ (คีตามีน​)​ ไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต​ โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า​ และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป​ ได้กระทำความผิดร้ายแรง​เกี่ยวกับยาเสพติด​เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน​“ จากนั้นตำรวจก็ควบคุมตัวมายัง สภ.เมืองพัทยา ทันที โดย นายนิติพัฒน์ โชคชัยธนพร หรือเอี่ยว หรือกู๋เอี๋ยว มีสีหน้าเคร่งเครียด อย่างเห็นได้ชัด

สืบเนื่องคดีผับฉาว “คลับวัน” สะท้อนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและปกครอง จนมีการออกแฉเรื่องส่วยการเรียกรับผลประโยชน์ ร่วมถึงการตรวจสอบว่า มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องหรือ ตำรวจจึงมีการสืบสวนสอบสวนหาเจ้าของตัวจริง โดยมีการนำหมายค้น เข้าตรวจสอบเอกสารสำคัญ รวมถึงเส้นทางการเงินของคลับวัน จนพบว่า นายนิติพัฒน์ โชคชัยธนพร หรือกู๋เอี๋ยว คือเจ้าของตัวจริง มิหนำซ้ำ ยังตรวจสอบพบว่า ที่แท้จริงเป็นคนสัญชาติจีน แต่มีบัตรประชาชนไทย

‘ผู้ว่าฯ-ผู้การ’ ยันไร้เอี่ยวรับส่วย ‘คลับวัน’ ลั่นจ่อฟ้องผู้ที่ทำเสียชื่อเสียง

ชงผู้ว่าฯ ชลบุรี สั่งปิด 5 ปี ‘คลับวัน’ กร่างอ้างเคลียร์ผู้ใหญ่ไม่กลัวใคร!

ต่อมาตำรวจเริ่มแกะรอยสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนพบว่า กู๋เอี๋ยว ได้ใช้ชื่อว่า “นายนิติพัฒน์ โชคชัยธนพร” ไม่ใช่บุคคลตามทะเบียนราษฎร์จริง ประกอบกับได้บันทึกถ้อยคำ “นางม่วย อิฐสมบูรณ์” มารดาของ นายนิติพัฒน์ โชคชัยธนพร (ตามฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์) และ นางสุนีย์ อิฐสมบูรณ์ อายุ 44 ปี พี่น้องต่างมารดา (ตามฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์) แล้วให้ถ้อยคำตรงกันว่าไม่เคยรู้จัก หรือเห็นหน้า “กู๋เอี๋ยว” มาก่อน จึงทำให้ตำรวจมั่นใจว่า “กู๋เอี๋ยว” มีการสวมชื่อบัตรประชาชนของคนอื่น เพื่อมีบัตรประชาชนไทยไว้ในความครอบครอง และแสดงตัวตนว่าตัวเองเป็นคนไทย ตำรวจจึงรวบรวมหลักฐาน จนออกหมายจับดังกล่าว

นอกจากนี้ ตำรวจแบ่งกำลังเข้าทำการตรวจค้น 11 จุดพร้อมกันทั่วเมืองพัทยา และในท้องที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อหาหลักฐานสำคัญ เพื่อพิสูจน์ทราบและหาจุดเชื่อมโยงต่างๆ หลังพบว่า “กู๋เอี๋ยว” มีส่วนเกี่ยวข้อง กับผับคนจีนชื่อดัง “ท็อปวัน” ในการส่งลูกค้าไปใช้บริการ หลังผับ “คลับวัน” ถูกปิดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา.