เมื่อวันที่ 24 ต.ค. จากกรณี “คลับวัน” ผับดังเมืองพัทยา ย่านถนนเพ็ชรตระกูล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ถูกเจ้าหน้าที่บุกจับ แต่ปรากฏว่ามีการปะทะคารมระหว่างเจ้าหน้าที่กับเจ้าของผับ ตามที่ปรากฏภาพในคลิป ส่วนนักท่องกว่า 200 คน พากันแตกฮือไม่ให้ตรวจปัสสาวะ กรูกันวิ่งหนีออกจากผับ ขณะที่ผู้ว่าฯ ชลบุรี ปัดรู้จักเจ้าของผับดัง ยืนยันไม่มีนโยบายให้สถานบริการเปิดเกินเวลา ต่อมา นายนิติพัฒน์ โชคชัยธนพร อายุ 45 ปี และนายแบ้งค์ วรรณสีทอง อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นผู้บริหารของผับคลับวัน และเป็นชายที่ปรากฏในคลิป ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเปิดใจกับผู้สื่อข่าว โดยเผยว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าขณะเกิดเหตุอยู่ในการมึนเมา เนื่องจากดื่มไวน์เข้าไปเยอะ จึงพูดออกไปแบบไม่คิด ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

พ่อเมืองชลฯ-ตร.แจงด่วน ปัดรู้จัก ‘เอี๋ยว พัทยา’ ปมคลิปกร่าง ‘อ้างจ่ายส่วย’ ขวางตรวจผับ

ล่าสุดที่ห้องประชุม สภ.เมืองพัทยา พล.ต.ท.ภานุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้รับมอบจาก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุวิมล รอง ผบ.ตร. (ปป.) ให้เดินทางมาคุมสำนวนสอบสวนคดี คลับวัน ผับ พร้อมทั้งมอบแนวทางการปฏิบัติงานให้ตำรวจท้องที่ โดยมีการประชุมร่วมกับ รอง ผบช.ภ.2, ผบก.ภ.จว.ชลบุรี และ ผกก.สภ.เมืองพัทยา

พล.ต.ท.ภานุรัตน์ กล่าวว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าว กรณีที่มีชายแสดงพฤติกรรมเอะอะโวยวายเจ้าหน้าที่ ซึ่งทำให้สะเทือนถึงความเชื่อมั่นของผู้บังคับใช้กฏหมาย จึงทำให้ ผบ.ตร. และ รอง ผบ.ตร. มีการกำชับสั่งการให้มีการดำเนินคดีกับทุกฝ่าย เบื้องต้น พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้ดำเนินคดีกับ นายมนู ยิ้มอยู่ อายุ 37 ปี ผู้ดูแลผับดังกล่าว ในข้อหากระทำความ พ.ร.บ.สถานบันเทิง และ พ.ร.บ.จำหน่ายสุรา แต่จากการดูคลิปในวันเกิดเหตุอย่างละเอียด อาจจะต้องมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม อีกทั้งเตรียมประสานเมืองพัทยา เพื่อเข้าตรวจสอบในเรื่อง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ว่ามีการขอใช้อาคารที่ถูกต้องหรือไม่ นอกจากนี้เตรียมสอบสวนเจ้าของผับตัวจริง ซึ่งจากแนวทางการสอบสวนทราบว่า คือ “กู๋เอี๋ยว” ที่มีประวัติเกี่ยวข้องคดีฟอกเงิน และยาเสพติด รวมถึงหุ้นส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ขณะเดียวกันได้สั่งการให้ ผกก.สภ.เมืองพัทยา รวบรวมสำนวนการสอบสวนทั้งหมด และเร่งทำเรื่องเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี สั่งปิดสถานบันเทิงดังกล่าว 5 ปี ตามคำสั่ง คสช. 22/2558 ส่วนยาเสพติดจำนวนมมากที่ตกอยู่ในผับ ให้ร่วมกับกองพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบหารอยนิ้วมือแฝงและดีเอ็นเอ เพื่อพิสูจน์ทราบให้ได้ว่าใครเป็นเจ้าของ

ส่วนประเด็นที่มีกระแสดราม่าเรื่องนักเที่ยวกว่า 200 คน ไม่ยอมให้ตรวจปัสสาวะ พากันแตกฮือออกจากผับ ในเรื่องนี้มีการดูคลิปกันหลายรอบ พบว่ามีชายฉกรรจ์ 3 คน พยายามปลุกปั่นให้นักเที่ยวลุกฮือหนีออกจากผับ จนทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ในประเด็นนี้ ตำรวจเตรียมดำเนินคดีกับชายทั้ง 3 คน ที่ปรากฏในคลิป แจ้งข้อกล่าวหา “ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่”