เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีมีคลิปวิดีโอปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ เป็นภาพชายเสื้อเขียวพูดจาเสียงดังโวยวาย ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่า “ผู้ใหญ่ผมดูแลแล้ว ผมจ่ายก่อนใครเลย ดูแลในช่องผู้ว่าฯ ด้วย โต๊ะกินข้าวด้วยกัน ผมนั่งกินข้าวอยู่ด้วยกัน ผู้ว่าฯ ด้วย” ซึ่งคลิปดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.2 ตำรวจภูธร ภ.จว.ชลบุรี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง นำกำลังเข้าตรวจค้นสถานบริการ “Club one” ตั้งอยู่ถนนเพ็ชรตระกูล หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อช่วงตี 3 วันที่ 23 ต.ค. ที่ผ่านมา ทำให้นักท่องเที่ยวกว่า 200 คน กำลังรอตรวจปัสสาวะ ฮือหลบหนีไปได้หมดอย่างเป็นที่กังขาของสังคม เหลือเพียงหลักฐานอุปกรณ์เสพและยาเสพติด และจับกุมได้เพียงคนดูแลแจ้ง 4 ข้อหา จำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต จำหน่ายสุราเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการพกพาอาวุธ วัตถุระเบิด หรือยาเสพติดเข้าไปสถานที่ของตน ส่งตัวให้ สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ต่อมาคืนเวลา 21.00 น. วันที่ 23 ต.ค. ผบช.ภ.2 จึงสั่งการให้ ผบก.สส.ภ2 พร้อมฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบสถานบริการดังกล่าวอีกครั้ง พบว่าปิดบริการเงียบ ตรวจสอบพบว่าสถานบริการดังกล่าวเดิมชื่อ bone ผับ เคยถูกตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เข้าจับกุม แต่มีการเปลี่ยนชื่อและเปิดให้บริการใหม่ กระทั่งมีการเข้าจับกุมอีกครั้งและปรากฏภาพชายคนหนึ่งยืนเถียงและขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เป็นเหตุให้นักท่องเที่ยว 200 คน หลบหนีการจับกุมไปได้ มีเพียงอุปกรณ์การเสพยาทิ้งไว้ดังกล่าว

ขณะเดียวกันมีหนังสือ ลงวันที่ 23 ต.ค. จาก ผวจ.ชลบุรี ระบุว่า จากกรณี เจ้าหน้าที่ นปพ.บก.สส.ภ.2, สว.กก.ปพ.บก.สส.ภ.2, นปพ.กก.สส.ภ.จว.ชลบุรี, ฝ.ปค. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เข้าดำเนินการจับกุมสถานประกอบการดังกล่าว “Club one” จนเป็นเหตุให้มีคลิปวิดีโอดังกล่าว ทางผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ปฏิเสธว่า ไม่เคยรู้จักกับบุคคลดังกล่าวมาก่อนแต่อย่างใด และปัจจุบันจังหวัดชลบุรี อยู่ระหว่างตรวจสอบคลิปข้อมูลดังกล่าว หรือคลิปข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องว่าเข้าข่ายกระทำผิดตามกฎหมายหรือไม่ และหากพบว่ามีความผิดตามกฎหมาย จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีให้เป็นไปตามกฎหมายต่อไป รวมถึงมีกระแสข่าวระบุว่า จังหวัดชลบุรีได้มีการผ่อนผันให้ผู้ประกอบการในพื้นที่พัทยา สามารถเปิดบริการหรือประกอบการได้เกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนดนั้น จังหวัดชลบุรียืนยันว่า ไม่มีนโยบายดังกล่าวแต่อย่างใด และได้มีการกวดขันจับกุมดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างเคร่งครัดตลอดมา

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าวพบว่า บุคคลเสื้อสีเขียวที่ปรากฏในคลิป คือ นายนิติพัฒน์ (สงวนนามสกุล) หรือ “เสี่ยเอี๋ยว พัทยา” ผู้ประกอบการสถานบันเทิงหลายแห่งในเมืองพัทยา สอบประวัติพบว่า มีฐานะร่ำรวยผิดปกติ นอกจากนี้ ตำรวจพบว่าเสี่ยเอี่ยว มีส่วนพัวพันกับการนำยาเสพติดเข้ามาจำหน่ายในผับ บาร์ และพูลวิลล่า จนเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นสถานประกอบการ และบ้านพักส่วนตัวหลายครั้ง เช่น วันที่ 12 พ.ค.63 จับกุมนายแจ๊ค พร้อมพวกรวม 44 คน มั่วสุมปาร์ตี้ยาเสพติด ที่พูลวิลล่าแห่งหนึ่ง ซึ่งนายแจ๊ค ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ผลิตยาเสพติดหลายประเภทตามคำสั่งของ “เสี่ยเอี๋ยว” จากนั้นจะนำไปจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ในเขตพื้นที่พัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี