เป็นอีกหนึ่งอุทาหรณ์ของผู้ที่หวังรับเงิน เป็นนายหน้ากับคนในโลกออนไลน์ ที่กำลังได้รับความสนใจจากชาวเน็ตอยู่ในขณะนี้ ภายหลังจากที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก @ลูกสาว ตานัน ยายป๊อก ได้เล่าเรื่องราวเห็นช่องทางช่วยทางหางานเสริม จากการที่คนในโลกออนไลน์ สามารถซื้อตั๋วเครื่องบินได้ราคาถูกกว่าท้องตลาด จึงเป็นนายหน้าหาสายเที่ยวมาซื้อตั๋วต่อ สุดท้ายต้นทางติดต่อไม่ได้ ทำสูญเงินกว่า 3 แสนบาท

โดยเธอระบุว่า “สวัสดีค่ะ … วันนี้ขอมาแชร์ประสบการณ์จากการ “โดนโกงเกือบล้าน” เริ่มจากการอยากหารายได้เสริมเพื่อที่จะมาไถ่ถอนที่ที่ติดจำนองให้กับทางบ้าน ตลอดเวลาก็คิดว่าจะทำอะไรดี?!?” ไม่ใช่งานที่ทำอยู่ไม่ดี หรือเงินเดือนน้อย งานดีมาก รายได้ดี และมีตำแหน่งงานที่ดี แต่ด้วยความที่พื้นฐานทางบ้านที่จนมากๆ มีภาระมาก จึงจะคิดวิธีหาทางสร้างรายได้เสริมมาโดยตลอด

จนกระทั้งวันหนึ่งที่จะต้องเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ เลยพยายามช่วยบริษัทหาตั๋วราคาถูก เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ จนไปเจอเฟสบุ๊คเพจหนึ่งที่มีสมาชิกเกือบแสนคน ที่สมาชิกมีไว้ซื้อ-ขายตั๋วเครื่องบิน ปรางเองก็ได้ไปโพสต์หาตั๋วไป-กลับสิงคโปร์ 2 ที่ จนมีคุณ P……. ติดต่อเข้ามาทางข้อความเพื่อเสนอราคาตั๋วที่ถูกมากๆ ประมาณ 10-20% จากราคาหน้าเว็บ

ก่อนที่ปรางจะตกลงซื้อ-ขาย ก็มีการเช็กประวัติแล้วก็ไม่พบว่ามีประวัติโกง หรือติดแบล็กลิสต์แต่อย่างใด เมื่อทำการชำระเงินเสร็จ ไม่นานก็ได้บุ๊กกิ้ง ซึ่งเราก็เช็กสถานะที่หน้าเว็บของสายการบินทันทีก็มีบุ๊กกิ้งคอนเฟิร์มตามปกติ หลังจากนั้นก็มีการแนะนำให้เพื่อนมาจองตั๋วด้วย 2-3 ท่าน ก็สามารถเดินทางได้ปกติดี รวมถึงตั๋วของปรางเองด้วย

จึงมีความคิดว่าถ้าเราหาลูกค้าล่ะ กินกำไรส่วนต่างสัก 5-10% จึงติดต่อไปทางคุณ คุณ P……. ว่าถ้าหาลูกค้ามาให้จะลดได้มากสุดเท่าไร จึงได้รับข้อเสนอมาว่า 30% ทางปรางจึงมองเห็นว่าหากขายให้ลูกค้าต่อปรางสามารถทำกำไรได้ 10-20% เลยทีเดียว ความโลภจึงบังเกิดขึ้น ปรางเริ่มหาลูกค้าจากการโพสต์เสนอในกลุ่มท่องเที่ยวต่างๆ เริ่มมีลูกค้าติดต่อเข้ามา และเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆจนตอบแทบไม่ทัน

ตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ได้ทำงานเสริมนี้ ลูกค้าได้รับตั๋วและเดินทางได้ปกติ หลายท่านกลับมารีวิว หลายท่านกลับมาขอบคุณ จนกระทั้งวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา มีลูกค้าจะเดินทางจากเชียงใหม่-กรุงเทพฯ เพื่อเดินทางต่อไปต่างประเทศกำลังเช็กอินที่เคาน์เตอร์ของสายการบินหนึ่ง โทรฯมาหาปรางว่าไม่พบบุ๊กกิ้งของเขาอยู่ในระบบ ณ ตอนนั้นทางเรารู้สึกงงและโกรธทางสายการบินมากว่าเกิดอะไรขึ้น ในเมื่อทางเรามีการเลื่อนไฟลต์บินและจ่ายค่าดำเนินการเรียบร้อยแล้ว แต่ ณ วินาทีนั้นทำอะไรไม่ได้ ไม่งั้นลูกค้าจะตกเครื่องที่จะไปเกาหลีด้วย เลยตัดสินใจซื้อตั๋วให้ลูกค้าใหม่

วันถัดมามีลูกค้า 7 ท่านที่บุ๊กตั๋วไป-กลับกับปรางไว้กำลังจะเดินทางกลับจากดานัง-ดอนเมือง ทำการเช็กอินและผ่าน ตม.เรียบร้อยแล้ว แต่สุดท้ายทางสายการบิน AA ไม่ให้ขึ้นเครื่องเนื่องจากพบว่ามีการทำทุจริตเกิดขึ้นของตั๋ว ณ ตอนนั้นทางเราก็ยังไม่เข้าใจว่าสาเหตุมันคืออะไรแน่ เพราะขาไปก็ปกติดี และทางสายการบินก็ไม่ได้ให้คำตอบที่แน่นอน แจ้งแค่ให้ติดต่อเอเย่นต์ที่ออกตั๋วให้อย่างเดียว สำหรับตั๋วนี้ทางปรางก็ต้องซื้อตั๋วใหม่ให้ลูกค้าไปอีกเช่นเคย หลังจากนั้นปรางก็แจ้งไปยังคุณ P……. ว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นนะ เขาก็บอกว่าไม่เป็นไรให้แจ้งยอดมาว่าซื้อตั๋วใหม่ไปเท่าไร และเขาก็โอนมาให้ปรางจริง จนวันที่ 3-4 เคสเริ่มเยอะขึ้นและเป็นตั๋วต่างประเทศที่มีราคาสูงทั้งนั้น ปรางเริ่มไล่เช็กบุ๊กกิ้งให้ลูกค้า พบว่ามีหลุดในช่วงวันที่ 2-4 พ.ย. ทราบสาเหตุคือทางเอเย่นต์ที่คาดว่าคุณ P……. ไปบุ๊กตั๋วต่อได้ทำการรีฟันด์เงินคืน หรือบางบุ๊กกิ้งก็ไม่ได้ชำระเงินตามกำหนดเลยทำให้บุ๊กกิ้งเด้งออกจากระบบของสายการบิน ณ ตอนนั้นปรางยังพยายามหาตั๋วใหม่และแจ้งให้ลูกทราบถึงสาเหตุ และยังไม่อยากคิดว่า คุณ P……. เป็นผู้รู้เห็นจากการโกงครั้งนี้ จน ณ วันที่ตื่นขึ้นมา คาดหวังว่าเขาจะโอนเงินให้ 1 แสนให้ เพื่อเอาไปซื้อตั๋วใหม่ลูกค้า กับไม่พบยอดและพบว่าเขาบล็อกเฟซบุ๊กปรางไป…

ช็อกมาก.. ทำอะไรไม่ถูก แทบจะไม่มีแรงไปทำงาน ได้แค่คิดว่าจะต้องทำยังไงต่อ จะพูดกับลูกค้าอย่างไร จะโดนลูกค้าแจ้งความจับมั้ย ไม่กล้าบอกใคร พยายามเอาเงินเก็บประมาณ 3 แสน มาบุ๊กตั๋วใหม่ให้ลูกค้า จนกระทั้งเงินเก็บหมด ต้องไปยืมเพื่อนมา 1.5 แสน และเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วเงินที่เพื่อนให้ยืมมาก็หมดไป เริ่มกด-รูดบัตรมาอีกประมาณเกือบ 1 แสน และก็เริ่มตัน กลางคืนนอนร้องไห้คิดถึงขั้นจะฆ่าตัวตาย เพราะความฝันที่จะมีเงินไปไถ่ที่ให้กับพ่อแม่สลายไปหมดแล้ว ทั้งยังมีหนี้เพิ่มขึ้น จนสุดท้ายต้องโทรฯไปหานายคนที่คอยช่วยเหลือมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม และจนสุดต้องยืมเงินบริษัทมาแก้ปัญหานี้กว่า 3 แสน..

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @ลูกสาว ตานัน ยายป๊อก