เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) ฉบับล่าสุด ที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าจะมีการเผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้ในวันที่ 24 พ.ย. ว่าเมื่อวันที่ 22 พ.ย. ตนได้เข้าประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้มีการหารือถึงประกาศกระทรวงฯ ฉบับล่าสุด ซึ่งจริงๆ ไม่ต้องเข้าก็ได้ เพียงแต่นายวิษณุมีความเห็นว่า หากจะนำเข้ามาหารือใน ป.ป.ส. ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เพราะที่ประชุมเป็นผู้เสนอปลดล็อกกัญชาที่ผ่านมา จึงนำมาแจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงความก้าวหน้า โดยทุกอย่างผ่านไปด้วยดี อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ประกาศยังไม่เผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษาทั้งที่มีการลงนามตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. อาจเกิดจากเป็นช่วงวันหยุดยาวของส่วนราชการ รวมถึงมีการประชุมเอเปคด้วย แต่ไม่ได้มีปัญหาอะไร

“เรื่องร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. …เป็นเรื่องของการพิจารณาจากสภาผู้แทนราษฎร หากท่านคิดว่าอะไรเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ท่านก็พิจารณาให้ผ่าน แต่ถ้าท่านใดเห็นว่าไม่ควรมีกฎหมายควบคุมการใช้กัญชง กัญชา ท่านก็ไม่ต้องสนับสนุน แต่เนื่องจากสภาชุดนี้จะหมดอายุในอีก 2-3 เดือน ฉะนั้นหากร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ไม่ผ่านก็รอสมัยหน้า พรรคภูมิใจไทยที่ผมเป็นหัวหน้าอยู่ เป็นผู้ผลักดันนโยบายก็จะเสนอร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ อีกครั้งอยู่ดี หวังว่าเมื่อถึงเวลานั้น กัญชา กัญชง จะถูกใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ สุขภาพและเศรษฐกิจ หากเกิดขึ้นเร็วก็ดี แต่ถ้าไม่เกิดก็จะมีประกาศกระทรวงสาธารณสุข ควบคุมช่อดอกและส่วนที่เป็นความหวั่นไหวของสังคม”

เมื่อถามถึงกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) ให้สัมภาษณ์ว่าหากร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ไม่ผ่านสภา พรรคภูมิใจไทย และรัฐบาลต้องรับผิดชอบ มากน้อยอย่างไรขึ้นอยู่กับความเป็นลูกผู้ชาย นายอนุทิน กล่าวพร้อมหัวเราะว่า “ผมเป็นลูกผู้ชายอยู่แล้ว ผมมีพ่อมีแม่ มีลูกเป็นผู้ชาย”

นายอนุทิน กล่าวต่อไปว่า ตนมองว่า ไทยเราต้องเลิกพูดแดกดัน เลิกด้อยค่าดูถูกกัน ท่านเป็น ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าหน่วยขององค์กรที่บังคับใช้กฎหมาย มีความสามารถ มีความเก่ง แต่ถ้าเรามีความสามารถแล้วควรเป็นตัวอย่างให้กับคนรุ่นหลังทำตาม เจริญเติบโตให้เก่งเหมือนเรา ไม่ควรไปด้อยค่าใคร เพราะทุกคนมีดีหมด

“ข้างหลังผมก็เป็นหมอ หมอให้เกียรติวิศวกร วิศวกรก็ให้เกียรติหมอ เราก็ทำงานด้วยกันได้”

เมื่อถามถึงความเห็นของนายวิษณุ ที่ระบุว่า อาจต้องออกประกาศมาควบคุมกัญชาเพิ่มเติม นายอนุทิน กล่าวว่า หาก สธ.เห็นว่ามีสิ่งใดที่สามารถประกาศมาควบคุมได้ ก็สามารถประกาศได้ ทั้งนี้ประกาศกระทรวงมีความยืดยุ่นมากกว่า พ.ร.บ. เพราะสามารถประกาศ หรือยกเลิก ปรับปรุงได้ หากเป็น พ.ร.บ. ถ้าจะมีการแก้ไขก็ต้องผ่านสภาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม การมี พ.ร.บ. ก็ทำให้มีความชัดเจน ส่วนถ้ายังไม่มีเราก็ออกประกาศเพิ่มเติมผ่อนคลาย หรือไขนอตเพิ่มได้

ผู้สื่อข่าวถามถึงศาลปกครองรับฟ้องคดีกัญชา เรื่องการเบิกถอนประกาศชื่อยาเสพติดให้โทษ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นไปตามขั้นตอน มีการไต่สวนเพื่อพิจารณา ซึ่งศาลปกครองรับฟ้อง 2 ส่วน คือ รมว.สาธารณสุข และคณะกรรมการ ป.ป.ส. โดยที่ประชุมเมื่อวานนี้ ก็หารือกัน ต้องเตรียมข้อมูลไปตอบคำถามต่อศาล โดยมี สธ.สนับสนุนข้อมูลทางการแพทย์ อย่างไรก็ตาม ศาลปกครองไม่ได้มีคำสั่งคุ้มครอง เท่ากับว่าทุกอย่างดำเนินต่อไปได้อย่างปกติ

เมื่อถามถึงหากร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ยังไม่ออกมาจะกระทบต่อการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของภาคเอกชนหยุดชะงักหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่กระทบ เพียงแต่การรวมกฎหมายใน พ.ร.บ.ฉบับเดียว จะทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ง่ายขึ้น เนื่องจากตอนนี้ต้องใช้ประกาศหลายฉบับมาควบคุม แต่หาก ร่าง พ.ร.บ.กัญชา ยังไม่ออกมาก็ไม่ได้กระทบต่อการใช้ประโยชน์จากกัญชาในภาคประชาชน

เมื่อถามต่อว่า วันนี้การขับเคลื่อนด้านกัญชา สามารถทำได้เลยโดยไม่ต้องกังวลว่ากฎหมายจะทำให้กลับมาเป็นยาเสพติด นายอนุทิน กล่าวว่า One way ticket อยู่แล้ว สายน้ำก็ไม่มีไหลย้อนกลับ The river of no return ส่วนความกังวลของภาคเอกชน ขอให้เปลี่ยนเป็นความหวัง เป็นโอกาส หากเรามัวกังวลจะไม่ได้ทำอะไร.