เมื่อวันที่ 27 พ.ย. จากกรณีเมื่อวันที่ 25 พ.ย. วัดในพื้นที่ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ชาวบ้านประมาณ 50 คน มารวมตัวกันที่ภายในวัด พร้อมคัดค้านไม่ให้มีการรื้อเตาเผาในเมรุ ที่เจ้าอาวาสเป็นคนติดต่อช่างมาก่อนหน้านี้ ทำให้ช่างที่เดินทางมาจังหวัดนครสวรรค์ ต้องยุติการดำเนินงานไว้ก่อน

การรวมตัวดังกล่าวชาวบ้านระบุ ทำผิดวัตถุประสงค์ของชาวบ้าน เจ้าอาวาสทำโดยพลการ ชาวบ้านไม่รู้เรื่อง ประกอบกับไม่พอใจในการทำงานของเจ้าอาวาสตั้งแต่มาอยู่ที่นี่นาน 8 ปี

นายสุวรรณ ไวยาวัจกรวัด อ้างว่า ผ่านมาชาวบ้านอยู่แบบอึดอัดแต่ไม่กล้าพูด ตนเป็นไวยาวัจกรมาได้ 8 ปี แต่ถูกรังแกมาโดยตลอด บางครั้งโดนเจ้าอาวาสตบโดยไม่รู้ตัวถ้าทำอะไรไม่ถูกใจ ยอมรับว่าอึดอัดแต่พูดอะไรไม่ได้มาก เพราะเป็นพระ

นางบุษบา บอกว่า ตอนช่วงมีการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 มีคนตายหลายคน เตาเผาในเมรุเกิดระเบิดขึ้น แต่ได้มีการซ่อมจนใช้การได้แล้ว ต่อมาชาวบ้านจึงทำเรื่องขอเตาเผาใหม่ไป ชาวบ้านตั้งใจว่าถ้าได้งบประมาณมาจะทำเตาเผาคู่กัน แต่กลับมีช่างมาทำการรื้อเตาเผา รื้อกระเบื้องเมรุ เมื่อสอบถามทราบว่าเจ้าอาวาสเป็นคนจ้างมา ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจเพราะไม่มีใครรู้เรื่อง ไม่มีการประชาคม มาอ้างทีหลังว่า เป็นการประชาคมผ่านวันพระเท่านั้น เมรุนี้ชาวบ้านร่วมกันสร้างมากับเจ้าอาวาสองค์ที่แล้ว จะมาทุบแบบนี้ไม่ได้

หลายเรื่องราวในการบริหารของเจ้าอาวาส ชาวบ้านไม่พอใจมานาน โดยเฉพาะความโปร่งใส งานกฐินที่ผ่านมาได้เงินกว่า 160,000 บาท เจ้าอาวาสเอาเงินเก็บไว้เอง เป็นคณะกรรมการงานกฐินเอง โดยชาวบ้านไม่รู้เรื่อง

ตอนนี้ชาวบ้านจะขอตรวจสอบบัญชีวัด และรายชื่อกรรมการวัด เพราะเจ้าอาวาสตัดเอาผู้ใหญ่บ้านออกจากคณะกรรมการวัด หรือใครที่ไปขวางการทำงานจะถูกคัดชื่อออก โดยชาวบ้านไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคณะกรรมการของวัดบ้าง ตอนนี้ชาวบ้านยืนยันไม่เอาเจ้าอาวาสรูปนี้แล้ว

ด้านเจ้าอาวาสวัดดังกล่าว กล่าวว่า เราได้เตาเผาใหม่มา จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนเตาเผาใหม่ ตัดเอามติเดิมออกที่จะต้องเตาเผาคู่กัน เตาเผาใหม่นี้ได้งบประมาณมาจากสำนักพระพุทธศาสนา หากชาวบ้านไม่พอใจก็สามารถยกเลิกแล้วทำตามชาวบ้านได้

“ส่วนเงินกฐินที่ผ่านมายอมรับว่าเก็บไว้เอง เพราะมีญาติโยมบางส่วน อนุญาตให้เอาเงินไปส่วนตัวได้ จึงไม่ได้เอาเงินเข้าบัญชีวัด”