จากกรณีมีคนนำเอา คู่มือนักเรียนโรงเรียนมัถยมแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ชุมพร มาเผยกฎระเบีบบในโรงเรียน โดยเฉพาะข้อที่ 15-16 ที่ระบุว่าห้าม นำอุปกรณ์การใช้โทรศัพท์ทุกชนิดมาโรงเรียน และห้ามนำอุปกรณ์การแต่งหน้า ทำผม และเครื่องประทินผิวทุกชนิด มาโรงเรียน หากตรวจพบทางโรงเรียนจะเก็บอุปกรณ์เหล่านั้น และไม่คืนให้ทุกกรณี ทำให้สังคมออนไลน์เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่าหนัก ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับระเบียบดังกล่าว มองว่าเป็นการปิดกั้นสิทธิเด็กจนเกินไปหรือไม่ บ้างก็ระบุว่า การยึดโทรศัพท์มือถือแล้วไม่คืนเพียงเพราะพกมาโรงเรียนจะเข้าข่ายผิดกฎหมายได้ ตามที่ปรากฏเหตุการณ์ไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 2 เม.ย. แหล่งข่าวที่ทำงานในโรงเรียนรายหนึ่ง เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องจริง แต่อยังไม่สามารถติดต่อผู้บริหารโรงเรียนดังกล่าวได้ สำหรับเหตุที่ต้องเข้มงวดเรื่องโทรศัพท์มือถือและการแต่งหน้านั้น เนื่องจากที่ผ่านมา มักเกิดปัญหาเด็กใช้คำหยายคายด่าทอกันไปมาผ่าน รวมทั้งนัดหมายชกต่อยทะเลาะวิวาทกันผ่านโซเชียลฯ หรือบางครั้งก็แชทคุยกันแบบชู้สาวกับนักเรียนด้วยกันและบุคคลภายนอก บางทีผู้ปกครองซื้อโทรศัพท์มือถือราคาแพงให้เด็กนำมาใช้ แต่กลับทำหายไป กลายเป็นปัญหาของโรงเรียน ที่ต้องออกติดตามหาให้ ในส่วนของเรื่องเครื่องสำอาง พบว่ากลุ่มนักเรียนบางกลุ่ม แต่งหน้าเพื่อออกไปหาเพศตรงข้ามทั้งในช่วงกำลังเรียนและหลังเลิกเรียน สร้างปัญหาให้โรงเรียนผู้ปกครองมาโดยตลอด ทำให้ต้องมีการเคร่งครัดในกฎระเบียบและข้อห้ามดังกล่าว ซึ่งแม้จะโดนหลายคนวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง แต่ก็อยากให้เข้าใจในปัญหาเพื่อให้เด็กมีสมาธิในการเรียน