ภาพเหล่านี้เป็นความฝันของธุรกิจไทย…ที่จะไม่มีวันเป็นจริงได้ ถ้าไม่มีใครลงมือทำ

ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) นำโดย ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทรกรรมการผู้จัดการ จึงประกาศในงาน “รวมพลคนกล้า พัฒนาเพื่อคนไทย” เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ณ สามย่านมิตรทาวน์ว่า EXIM BANK กล้า พัฒนาเพื่อคนไทย”

“ความกล้า” เป็นที่มาของภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ของ EXIM BANK ที่เปิดฉากด้วยภาพสนามบินที่ไร้นักท่องเที่ยว พร้อมเสียงบรรยายว่า “ในช่วงเวลาวิกฤต เราอาจต้องการใครบางคนที่กล้ารับความเสี่ยงไปด้วยกัน เพื่อให้อีกหลายชีวิตได้ไปต่อ” แล้วจึงฉายให้เห็นภาพผู้โดยสารเต็มลำเครื่องบิน เป็นคนหลากหลายวัยที่มุ่งหน้าไปยังจุดหมายด้วยภารกิจและเต็มไปด้วยความฝัน เด็ก ๆ ยิ้มแย้มมีความสุข พนักงานบนเครื่องได้กลับมาทำงานอีกครั้งและมีความสุขกับการเสิร์ฟอาหารว่างและเครื่องดื่มให้แก่ผู้โดยสาร

ภาพโรงไฟฟ้าพลังงานลมกับวิศวกรหนุ่มที่มองกังหันและสายลมด้วยความหวังและความสุข ก่อนที่กังหันจะเริ่มอ่อนแรง และไฟทั่วทั้งเมืองดับลง พร้อมกับเสียงบรรรยายที่ดังขึ้น “ต้องการใครบางคนที่กล้าเข้ามาสร้างพลัง ให้กับชีวิตที่กำลังหมดไฟ” แล้วทุกอย่างก็สว่างขึ้น เครื่องมือแพทย์ในห้องผ่าตัดถูกเปิดสวิตช์พร้อมเริ่มต้นการรักษา ไฟฟ้าตามบ้านเรือนสว่างไสว วิศวกรนั่งทำงานเขียนแบบเรือโดยสารไฟฟ้า “ใครบางคนที่กล้าผลักดัน ในเวลาที่อนาคต ต้องการการเปลี่ยนแปลง” ตัดภาพมาที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เห็นภาพเรือโดยสารไฟฟ้าที่ได้รับการออกแบบโดยวิศวกรหนุ่มคนไทยจนสำเร็จ พร้อมเปิดตัวในงานแถลงข่าว แล้วเรือในภาพสเก็ตช์บนจอก็กลายเป็นเรือโดยสารไฟฟ้าที่ล่องได้จริงในแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมรองรับการเดินทางของผู้คนอีกหลายชีวิตที่มีบ้านหรือทำงานอยู่ย่านริมน้ำ

และคน ๆ นั้นต้องกล้าที่จะเชื่อมั่น ในทุก ๆ ความฝันของคนไทย” ไม่ว่าจะเป็นความฝันของเด็กบนดอยสูงที่เก็บผลโกโก้มาให้เกษตรกรคนสวยเจ้าของสวน ซึ่งผลโกโก้นั้นได้รับแปรรูปเป็นผงโกโก้ ส่งออกไปยังผู้บริโภคชาวต่างชาติ พร้อมบทสรุปในตอนท้ายว่า “คน ๆ นั้นคือ EXIM BANK” คนที่มีความกล้า เพราะเชื่อในศักยภาพของคนไทย และศักยภาพของประเทศ”

กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่าEXIM BANK มุ่งมั่นดำเนินบทบาท “ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย” โดยสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งธนาคารในปี 2536 และเปิดดำเนินงานอย่างเป็นทางการปีต่อมา เมื่อเกิดวิกฤต COVID-19 ที่ผ่านมา EXIM BANK ได้มีบทบาทชัดเจนขึ้นในการ “รับความเสี่ยง” “ให้กำเนิดอุตสาหกรรมใหม่” และ “หนุนทุนไทยไปต่างแดน” ด้วยปณิธานของความ “กล้า” ที่จะสนับสนุนความฝันของคนไทยและประเทศไทยให้เป็นจริง

ตัวอย่างความกล้าที่จะรับความเสี่ยง EXIM BANK ได้ช่วยเหลือธุรกิจสายการบินที่ประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงินชั่วคราวจากผลกระทบของ COVID-19 จนเมื่อ COVID-19 คลี่คลายลง สายการบินทั้งหมดได้กลับมาดำเนินงานเป็นปกติ ไม่เพียงแต่พนักงานจำนวนมากจะไม่ถูกเลิกจ้าง ประชาชนยังได้รับประโยชน์จากการได้รับความสะดวกในการเดินทางเช่นกัน

ด้านความกล้าให้กำเนิดอุตสาหกรรมใหม่และหนุนทุนไทยไปต่างแดนนั้น EXIM BANK ได้ใช้ 3 เครื่องมือใหม่ ประกอบด้วย

1. บริการสร้างตัวตนแบบครบวงจรให้ SMEs ไทยในเวทีโลก ด้วยเครื่องมือทั้งทางการเงินและไม่ใช่การเงิน ตั้งแต่การให้ข้อมูล บ่มเพาะ อบรมสัมมนา และให้บริการทางการเงินที่ครบถ้วน เพื่อช่วยให้เกษตรกรรุ่นใหม่ วิสาหกิจชุมชนที่มีศักยภาพ และผู้ประกอบการรายย่อย สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองจาก Nobody เป็น Somebody ในตลาดโลกได้

2. บริการสร้างโอกาสการลงทุนในต่างแดน มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ประกอบการขนาดกลางที่มีศักยภาพ (Amazing M) ในการออกไปลงทุนในต่างประเทศ เพื่อสร้างฐานการผลิตและขยายเครือข่ายทางการค้า

3. บริการยกระดับธุรกิจไทยสู่ BCG Model มุ่งสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำตามนโยบายรัฐบาล สนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยตั้งแต่รายย่อย รายกลาง ไปจนถึงรายใหญ่ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ร่วมขับเคลื่อนโมเดลธุรกิจ BCG ในประเทศไทย เชื่อมโยงกับ Supply Chain ของโลก โดย EXIM BANK พร้อมสนับสนุนด้านเงินทุนและพัฒนาเครื่องมือทางการเงินเพื่อระดมทุนไปใช้สนับสนุนธุรกิจ BCG ของไทย

ตัวอย่างเช่น EXIM BANK ได้สร้างระบบนิเวศใหม่ให้เอื้อต่อการทำธุรกิจของผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และรายย่อย โดยได้จัดทำ EXIM Index ขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือชี้วัดทิศทางการส่งออกของไทยในช่วง 3 เดือนข้างหน้าเพื่อเป็นเข็มทิศให้ผู้ส่งออกให้วางแผนปรับกลยุทธ์ที่เหมาะสม หลักสูตร Top Executive Program เพื่อพัฒนาและต่อยอดให้ธุรกิจไทยเติบโตบนเวทีโลก โดยความร่วมมือกับวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล และ 3 สภาธุรกิจสำคัญของประเทศ ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย โครงการ EXIM Thailand Pavilion ร้านค้าออนไลน์ของ EXIM BANK บน E-Commerce ชั้นนำของโลก เพื่อเป็นทางลัดให้ SMEs ไทยเข้าสู่การค้าโลกได้อย่างรวดเร็ว สินเชื่อบุคคลทำธุรกิจ (EXIM Personal Biz) นวัตกรรมใหม่ทางการเงินที่ตอบโจทย์เทรนด์ธุรกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงไป เป็นครั้งแรกที่ EXIM BANK ปลดล็อกให้บุคคลธรรมดาที่ทำธุรกิจเชื่อมโยงกับการส่งออกสามารถขอสินเชื่อได้ EXIM Green Bond EXIM BANK เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (SFI) แห่งแรกที่ออกพันธบัตรระยะยาวอ้างอิง THOR (Thai Overnight Repurchase Rate) เพื่อระดมทุนไปใช้สนับสนุนโครงการลงทุนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งในปีหน้าธนาคารมีแผนออกEXIM Green Bond ให้กับประชาชนรายย่อยเป็นครั้งแรก EXIM Solar Orchestra สินเชื่อสนับสนุนการติดตั้ง Solar Rooftop ในโรงงาน พร้อมเชื่อมโยง Ecosystem ตลาดคาร์บอนครบวงจร EXIM Biz Transformation Loan สินเชื่อปรับปรุงกิจการ รวมถึงเครื่องจักร โรงงาน และระบบซอฟต์แวร์ดิจิทัล ดอกเบี้ยต่ำสุด 2% ต่อปี EXIM Shield Financing เงินทุนครบวงจร จ่ายทีเดียวได้ทั้งเงินทุนและความคุ้มครองทางการค้า และอยู่ระหว่างพัฒนาสินเชื่อ E-Commerce Financing สนับสนุนผู้ประกอบการที่ค้าขายออนไลน์ ระบบ Credit Scoring ใช้ในการพิจารณาสินเชื่อ เพื่อช่วยให้การอำนวยสินเชื่อของ EXIM BANK รวดเร็วขึ้น 

ดร.รักษ์ กล่าวว่า ความกล้าที่จะขึ้นมาเป็นเสาหลักในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจนั้น จำเป็นที่จะต้องทำคู่ไปกับการปรับเปลี่ยนองค์กร (Transformation) ซึ่ง EXIM BANK กล้าเปลี่ยนโมเดลธุรกิจสู่ความยั่งยืนด้วยสมการ 4P โดยให้ความสำคัญกับคน (People) เป็นอันดับแรก เริ่มต้นจากพนักงาน มุ่งสร้าง Empathic Workplace ให้สะท้อนผลการให้บริการที่ดีไปสู่ลูกค้าแต่ละกลุ่ม โดยเฉพาะคนตัวเล็กในโลกธุรกิจ ตลอดจนผู้คนในชุมชนและสังคม ควบคู่ไปกับการคำนึงถึงโลก (Planet) โดยการสนับสนุนธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดมลภาวะ สร้างโลกที่ดีขึ้น บวกกับความมุ่งมั่นให้บริการที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงสุด (Productivity) ไม่ว่าจะเป็นบริการที่รวดเร็ว เข้าถึงง่าย ไม่ซับซ้อน และสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า (Value Proposition) ซึ่งการขับเคลื่อนด้วยโมเดลธุรกิจดังกล่าวจะช่วยสร้างกำไร (Profit) และการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่องค์กร พร้อมกับสนับสนุนให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเติบโตไปด้วยกัน (Inclusive Growth) โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

ภายหลังการประกาศจุดยืนและบทบาทใหม่ของ EXIM BANK นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานในพิธีเปิดงาน “รวมพลคนกล้า พัฒนาเพื่อคนไทย” ได้สนับสนุนนโยบายและบทบาทของ EXIM BANK ในการเป็นธนาคารเพื่อการพัฒนาประเทศไทยที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับผู้ประกอบการไทยสู่เวทีการค้าโลก และช่วยเหลืออุตสาหกรรมที่ประสบกับปัญหา เนื่องจาก EXIM BANK มีความพร้อมในด้านเงินทุนและการบริหารจัดการที่ดี ซึ่งกระทรวงการคลังจะสนับสนุนการเพิ่มทุนในระยะถัดไป ทั้งนี้ เพื่อให้ EXIM BANK เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนารากฐานภายในประเทศ ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน กฎระเบียบที่เอื้อต่อการสร้างระบบนิเวศการค้าการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ บรรยากาศส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไทยสู่อนาคต สอดรับกับเมกะเทรนด์โลก ประกอบกับการเร่งสร้าง Entrepreneurship DNA ให้คนไทยก้าวขึ้นมาเป็นผู้ประกอบการ โดยเฉพาะการเติมความกล้าที่จะไม่จำกัดอยู่แค่ตลาดภายในประเทศ กล้าบุกตลาดโลกที่มีโอกาสใหม่ ๆ อีกมาก และใช้จุดแข็งของกิจการต่อยอดและสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐอย่าง EXIM BANK เพื่อพัฒนาภาคอุตสาหกรรมไทยตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำตลอด Supply Chain ให้เติบโตได้มั่นคงและยั่งยืน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG Economy) ได้ ต้องใช้ “ความกล้า” เป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดมิติใหม่ขององค์ความรู้ โอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน เครือข่ายธุรกิจ การถ่ายทอดนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะคนตัวเล็ก ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา วิสาหกิจชุมชน และ SMEs ให้สามารถปรับตัวให้ก้าวทันโลก ทั้งการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว กระแสรักษ์โลก และความยั่งยืน และผู้ประกอบการไทยต้องกล้าเปลี่ยนกรอบความคิด (Mindset) ตัวตน (Identity) และโมเดลธุรกิจ (Business Model)

“โลกเปลี่ยนไปไกลแล้ว หากองค์กรต่าง ๆ รวมทั้ง EXIM BANK ไม่ปรับเปลี่ยนให้ทันโลก ก็จะไม่สามารถอยู่รอดได้ ปัจจุบันระบบเศรษฐกิจ รูปแบบการค้า การลงทุน การเงินการธนาคาร ภูมิรัฐศาสตร์ของโลกเปลี่ยนแปลงไปมาก โดยเฉพาะเทรนด์ Next Normal เราจึงกล้าก้าวออกจาก Comfort Zone เดิม และบริหารจัดการความท้าทาย เพื่อส่งมอบบริการและผลลัพธ์ที่ดีและยั่งยืนต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและสังคมรอบข้าง” ดร.รักษ์ กล่าว