เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ตามที่มีการเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียล เพจขยะมรสุม MONSOONGARBAGE THAILAND ในกรณีที่พบซากพะยูน บริเวณอ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ขนาดยาวเกือบ 2 ม. น้ำหนักราว 200 กก. อายุประมาณ 15-20 ปี โดยพบเชือกรัดหาง รอยแทงคล้ายมีด และเขี้ยวที่ถูกตัดออกไปนั้น ทช.ได้รับรายงานผลการชันสูตรซากพะยูนตัวดังกล่าวจากสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

พบว่าสภาพซากมีรอยกรีดบริเวณส่วนหัวและหางเกิดหลังการตาย พบรอยเชือกรัดบริเวณหัวหลังจมูก ซึ่งกล้ามเนื้อใกล้รอยรัดช้ำ แสดงว่ารอยรัดเกิดก่อนตาย เมื่อตรวจสอบกะโหลกพบเขี้ยวคู่หลัง 1 คู่ ซึ่งยังไม่โผล่พ้นริมฝีปาก ไม่พบร่องรอยการถูกตัด เขี้ยวคู่หน้าหลุดไปแล้วตามธรรมชาติ ซึ่งจะหลุดในช่วงวัยรุ่น และเมื่อตรวจสอบอวัยวะภายในพบว่าอวัยวะส่วนใหญ่เน่าสลาย พบเฉพาะอวัยวะทางเดินอาหารบางส่วน ซึ่งพบหญ้าทะเลในกระเพาะอาหารและไส้ติ่ง แสดงว่าพะยูนยังสามารถหากินได้ก่อนตาย สำหรับสาเหตุการตายไม่สามารถระบุได้เนื่องจากซากเน่า แต่สันนิษฐานว่าพะยูนตายอย่างเฉียบพลันเนื่องจากยังพบอาหารในทางเดินอาหารอยู่และพะยูนมีชั้นไขมันที่สมบูรณ์

นายอรรถพล กล่าวต่อว่า ทช. ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่บินโดรนสำรวจในพื้นที่ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ที่เป็นแหล่งหญ้าทะเลที่สำคัญในพื้นที่อ่าวไทยตอนกลาง ซึ่งในช่วงเดือน ก.พ. 2565 พบพะยูนอย่างน้อย 3 ตัว หากินอยู่ในพื้นที่ และได้มีการติดตามรอยกินของพะยูนในแนวทะเลในช่วง เม.ย. 2565 พบรอยกินพะยูนกระจายอยู่แนวหญ้าทะเลตรงบริเวณอ่าวพุมเรียง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ทั้งนี้ หากทุกท่านพบเจอสัตว์ทะเลหายากเกยตื้นทั้งมีชีวิตและตาย สามารถแจ้งเบาะมายังสายด่วนพิทักษ์ป่าและรักษาทะเล โทร. 1362 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อ ทช. จะแจ้งให้หน่วยงานในพื้นที่เร่งดำเนินการช่วยเหลือได้ทันท่วงทีต่อไป.