เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 9 ธ.ค. ที่ สน.สุทธิสาร นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายตั้ม พร้อมด้วย นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง และนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา พา น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ16 ปี ผู้เสียหาย หลังส่งจดหมายมาขอความช่วยเหลือ โดยอ้างว่าถูกนายจ้างและทนายความ ซึ่งเคยทำคดีให้คนดังแห่งบ้านกกกอก ข่มขืนหลายครั้ง ก่อนแจ้งความดำเนินกับคดีทนายคนดังกล่าวไว้ที่ สน.สุทธิสาร เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 65 และระบุว่าทนายคนดังกล่าวมีพวกเป็นตำรวจหลายคน ทำให้คดีไม่คืบหน้า ซ้ำถูกคนดูแลหลอกเรียกผลประโยชน์จากการช่วยเหลือในคดี

นายษิทรา กล่าวว่า วันนี้พาผู้เสียหายมาให้ปากคำเป็นครั้งแรก ซึ่งมีสหวิชาชีพและอัยการร่วมสอบปากคำด้วย และจะมีนายกัน จอมพลัง เข้าไปร่วมรับฟังการสอบปากคำ เนื่องจากผู้เสียหายไว้วางใจ ส่วนตนจะดำเนินการในส่วนของทนายความ ส่วนชีวิตน้องเหมือนหนีเสือปะจระเข้ เนื่องจากว่าเคยถูกกระทำมาก่อนหน้านั้น จำนวนหลายครั้งก่อนจะมาเจอทนายอีก 2 คนก็กระทำกับน้องเช่นนั้นอีก

ทนายษิทรา กล่าวต่อว่า จากที่ตนและ กัน จอมพลัง รวมทั้งหมอปลา ได้สอบถามกับตัวน้อง เบื้องต้นมีคนใช้ประโยชน์จากการที่น้องถูกข่มขืนกระทำชำเรามาเรียกร้องผลประโยชน์ให้กับตนเองอีก ซึ่งตนเอะใจตั้งแต่ที่ได้สอบถามกับน้องทางโทรศัพท์ว่ามีใครเรียกเงินเรียกทองอะไรกันหรือเปล่า แต่ยังไม่อยากฟันธงเพราะยังไม่เจอตัวน้อง ซึ่งวันนี้ได้เจอตัวน้อง และรู้ข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว จึงให้น้องผู้เสียหายเข้าไปให้การต่อพนักงานสอบสวน

นายษิทรา กล่าวอีกว่า โดยบุคคลดังกล่าวใช้ประโยชน์จากการที่น้องถูกข่มขืนกระทำชำเราเพื่อไปแบล็คเมล์เรียกร้องเงินจากผู้กระทำความผิด ส่วนข้อเท็จจริงว่ากระทำจริงหรือไม่นั้น ดูจากการที่มีการข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีจนต้องโอนเงินยอดเกินมาให้ เพราะกลัวในสิ่งที่ตนเองกระทำความผิด เนื่องจากวันนี้ทางนายกัน จอมพลัง และหมอปลาได้มีการพูดคุยกับผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ จนพบว่ามียอดเงินเป็นสลิปการโอนเงินเข้ามาในบัญชี แต่ตัวน้องผู้เสียหายไม่รู้ว่ามีเงินก้อนนี้อยู่ และเพิ่งมารู้จากหมอปลา และกัน จอมพลัง ที่ได้บอกกับน้อง ส่วนผู้ก่อเหตุนั้นตนไม่ขอเอ่ยชื่อ แต่การกระทำความผิดมีความชัดเจนแล้ว

ด้านนายกัน จอมพลัง กล่าวว่า มีสลิปยอดเงินจำนวน 20,000 บาทและมีข้อความแชตพูดคุยด้วย โดยขณะพูดคุยกับน้องนั้นรู้สึกสงสาร แต่เมื่อเห็นแชตก็รู้สึกตกใจว่าน้องมีคนให้การดูแลแบบนี้น่าเป็นห่วง โดยจะนำข้อความแชตทั้งหมดส่งให้กับพนักงานสอบสวนด้วย ส่วนในแชตนั้นจะมีข้อความระบุด้วยว่าหากจ่ายเงิน 50,000 บาทจะจบเรื่องเลยนะ

ทนายษิทรา กล่าวอีกว่า ส่วนการดำเนินคดีกับคนที่แสวงหาประโยชน์จากการที่น้องถูกกระทำนั้น จะต้องให้พนักงานสอบสวน ว่ามีการแบล็คเมล์หรือไปรีดทรัพย์บุคคลอื่นหรือไม่ หากพบก็จะถูกดำเนินคดีในข้อหากรรโชกทรัพย์ด้วย

ทนายษิทรา กล่าวด้วยว่า พอรู้ว่ามีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นก็พยายามจะให้ผู้เสียหายเลิกติดต่อ โดยทนายคนดังกล่าวพยายามจะพูดให้ผู้เสียหายไม่ไว้ใจตนและกัน จอมพลัง รวมถึงหมอปลาด้วย โดยอ้างว่าจะทำให้เป็นข่าวใหญ่ทำไม ตนยืนยันว่ายินดีที่จะช่วยเหลือ ส่วนในวันนี้ดำเนินการในเรื่องการข่มขืน เพราะมีทนายเข้าไปเกี่ยวข้อง ส่วนก่อนหน้านี้ที่ไม่คืบหน้าเพราะน้องยังไม่เคยมาให้ปากคำ แต่หลังจากนี้ขอให้สื่อช่วยติดตาม ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ส่วนคนที่รีดทรัพย์นั้นตนจะขอปรึกษากันก่อนและจะให้อยู่ห่างกันไปก่อน

นายกัน จอมพลัง กล่าวต่อว่า ส่วนสภาพจิตใจนั้นตอนแรกน้องไม่ไว้ใจใคร แต่เมื่อได้พูดคุยแล้วตอนนี้น้องไว้ใจพวกเรา เรามาช่วย เงินสักบาทก็ไม่ได้เรียกร้องขอ ไม่เหมือนคนที่ดูแลน้องว่าได้เงินมา 40,000 บาทจะขอ 12,000 บาทได้ไหม ซึ่งน้องก็ได้ให้ไปด้วย แต่ตนไม่เคยหากินบนความลำบากของเด็ก อย่าเอาเด็กมาเป็นเครื่องมือเลย ส่วนการดูแลเด็กต่อจากนี้ตนได้ประสานท่านปลัดกระทรวงพัฒนาสังคม พม. ได้ส่งทีมงานเข้ามาด้วย และจะประสานกระทรวงการศึกษาเพื่อจะมีการช่วยเหลือน้องด้านการศึกษาได้ เมื่อน้องมาถึงมือพวกเราแล้วก็จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ด้วย.