จากกรณีพบจระเข้น้ำเค็มขนาดใหญ่ 2 ตัว โดยตัวแรกยาวกว่า 4 เมตร น้ำหนักประมาณ 500 กก. อายุประมาณ 25 ปี ส่วนอีกตัว ยาวกว่า 2 เมตร น้ำหนักเกือบ 100 กก. อายุประมาณ 6 ปี ริมคูน้ำถนนภายในหมู่บ้านใกล้เขตชุมชน พื้นที่หมู่ที่ 8 ต.คันธุลี อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งชาวบ้านช่วยกันจับตัวไว้ได้ก่อนส่งมอบให้เจ้าหน้าที่นำกลับไปดูแล ซึ่งเหตุดังกล่าวได้สร้างความหวาดกลัวและวิตกกังวลให้ชาวบ้านและชาวประมงในพื้นที่ ว่าอาจมีหลงเหลืออยู่อีกหรือไม่ เพราะจากการตรวตสอบพบว่า เป็นจระเข้น้ำเค็มซึ่งมีนิสัยค่อนข้างดุร้าย ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ประมงจังหวัดสุราษฎร์ธานี จัดกำลังเจ้าหน้าที่และประสานชุดไกรทองลุ่มน้ำตาปี ออกลาดตระเวนค้นหาร่องรอยว่ายังมีจระเข้ตัวอื่นอีกหรือไม่ เพื่อดูแลความปลอดภัยและให้ความมั่นใจกับประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งสืบสวนหาที่มาของจระเข้ ทั้ง 2 ตัวที่พบว่าเป็นจระเข้เลี้ยงที่หลุดออกมาจากฟาร์ม หรือเป็นจระเข้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ตามธรรมชาติ

สะดุ้งเฮือก! เห็นแสยะยิ้มนอนอยู่ข้างถนน เจอจระเข้น้ำเค็ม 4 เมตรกับ 2 เมตร

นายวิชวุทย์ กล่าวด้วยว่า หากพบว่าเป็นจระเข้ที่หลุดออกมาจากฟาร์ม ก็จะต้องเอาผิดกับเจ้าของฟาร์ม ที่ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเสี่ยงอันตราย พร้อมกับเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบฟาร์มเลี้ยงจระเข้ทุกพื้นที่ โดยให้ตรวจสอบความแข็งแรงของบ่อ และระบบป้องกันน้ำท่วม รวมถึงสำรวจจำนวนจระเข้ว่าตรงตามบัญชีที่ขึ้นทะเบียนไว้ถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากระยะนี้เป็นช่วงที่มีฝนตกหนัก เกิดน้ำท่วม น้ำหลาก อาจส่งผลให้มีจระเข้หลุดมาได้ ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายกับประชาชนได้.