เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าการสืบสวนกลุ่มธุรกิจคนจีนผิดกฎหมาย โดยขณะนี้ ทางทีมสืบสวนที่รับผิดชอบได้สืบสวนแล้ว ยังไม่พบความผิดนอกราชอาณาจักรของกลุ่มนายตู้ห่าว และได้สรุปส่งไปให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. แล้ว โดยหากจะดำเนินคดีนอกราชอาณาจักรได้นั้น จะต้องสืบสวนให้ได้แน่ชัดก่อนว่า ขบวนการนี้ต้องเตรียมการวางแผนมาจากต่างประเทศ และเข้ามาก่อเหตุในไทย รวมทั้งยาเสพติดที่ชื่อแฮปปี้วอเตอร์ ที่พบในจินหลิงผับ พบว่าผสมเองในไทย ไม่ได้นำเข้า ไม่พบการโอนเงินไปยังต่างประเทศ จึงยังไม่พบความผิดในส่วนนี้ และไม่สามารถแจ้งข้อหาอาชญากรข้ามชาติได้ เช่นเดียวกับคดียาเสพติดทั่วไปที่จับได้ หากจะดำเนินคดีความผิดอาชญากรข้ามชาติ ก็จะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่ามีการวางแผนนำเข้าประเทศอย่างชัดเจนหรือไม่ เพราะหากนำเสนออัยการแล้ว ก็จะสั่งไม่ฟ้อง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผบ.ตร. ให้ข้อมูลว่า พบข้อมูลว่าเข้าข่ายความผิดอาชญากรข้ามชาตินั้น รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า น่าจะได้รับข้อมูลการสืบสวนมาจากผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวน และเป็นผู้มีอำนาจในการสั่งฟ้องผู้ต้องหาตามกฎหมาย ส่วนในชุดสืบสวนของตัวเองนั้น เป็นการตั้งขึ้นมาจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อกำกับดูแลและร่วมสืบสวน เพื่อนำความเห็นส่งไปให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเท่านั้น

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การแจ้งข้อกล่าวหาเจ้าของสถานบริการกับพนักงานรักษาความปลอดภัยของจินหลิงผับ ก็เป็นการแจ้งข้อหาของชุดสืบสวนนครบาลที่พบหลักฐานในขณะนั้น และที่ผ่านมา ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสำนวนการสอบสวน จึงไม่ทราบรายละเอียด แต่ทราบว่า ได้สั่งไม่ฟ้องในข้อหานี้แล้ว และเพิ่งมาทราบว่า พนักงานรักษาความปลอดภัยคนนี้ ถูกแจ้งข้อหาก่อนที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาให้ข้อมูลก่อน 1 วัน

“การสืบสวนดำเนินการไปแล้วร้อยละ 90 และกำลังดำเนินคดีกับตำรวจทั้งนายพล และชั้นประทวนที่เกี่ยวข้องในการเอื้อประโยชน์ ไม่เว้นแต่เพื่อนร่วมรุ่นของตัวเอง ซึ่งจะดำเนินการให้เสร็จภายใน 2 สัปดาห์ และยอมรับว่า ข้อมูลของนายชูวิทย์ ที่ได้นำมาให้ตำรวจ ก็ถือเป็นข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์ต่อการสืบสวน ซึ่งก็ได้รวบรวมส่งไปให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลต่อ พร้อมยืนยันไม่น้อยใจที่ภาคประชาชนจะมีข้อมูลเชิงลึกกว่าตำรวจ เพราะที่ผ่านมา ก็รับข้อมูลของทุกฝ่ายมาสืบสวนทั้งหมด” รอง ผบ.ตร. กล่าว

อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเรียกคณะทำงานทั้งหมดมาประชุมสรุปสำนวนการสืบสวนสอบสวนอีกครั้ง ในวันศุกร์ที่ 16 ธ.ค. นี้ เวลา 16.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ