เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ร.ต.ท.ภาณุวัฒน์ ริมหมู่ดี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ เปิดเผยว่า วานนี้ (22 ธ.ค.) ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุคนจมน้ำเสียชีวิต 2 ราย ที่บ่อน้ำข้างหนองน้ำ ซึ่งกำลังมีการขุดลอกปรับปรุงภูมิทัศน์ บ้านโคกจ๊ะ หมู่ 8 ต.เฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ ที่เกิดเหตุเป็นบ่อน้ำ ข้างสระน้ำสาธารณประโยชน์หนองตาวิน บ้านโคกจ๊ะ หมู่ 8 ซึ่งมีชาวบ้านจำนวนมากมายืนดูเหตุการณ์ด้วยความเศร้าสลด พบว่าสระน้ำสาธารณะกำลังมีการขุดลอก ปรับแต่งพื้นผิวภูมิทัศน์รอบสระน้ำ และมีการนำรถแบ๊กโฮมาขุดบ่อดังกล่าวไว้ เพื่อนำน้ำไปใช้ ขนาดความยาว ประมาณ 3 เมตร กว้าง 1 เมตร ลึกประมาณ 2 เมตร ครึ่ง
จากการสอบถามทราบว่าเมื่อเวลาประมาณเที่ยงวัน ได้มี ด.ช.เอ็ม (นามสมมุติ) อายุ 10 ขวบ เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กับ ด.ช.โอม (นามสมมุติ) อายุ 8 ขวบ เรียน ป.2 โรงเรียนเดียวกัน พร้อมด้วย นางกาญจนา เกิดเหมาะ หรือ จ๊าบ อายุ 47 ปี ผู้เป็นแม่ พากันเดินทางไปที่สระน้ำ มาดูคนงานที่กำลังมีการปรับเกลี่ยหน้าดิน ขณะเดียวกัน ด.ช.เอ็ม ผู้เสียชีวิต เห็นบ่อน้ำที่รถแบ๊กโฮขุดไว้ และมีน้ำซึมออกมาจนเต็มบ่อจึงอยากรู้ว่าน้ำลึกแต่ไหน จึงได้กระโดดลงไปในบ่อน้ำ กระทั่งน้ำท่วมหัว พยายามจะปีนขึ้นจากบ่อ แต่ขึ้นไม่ได้ ด.ช.โอม ยืนดูอยู่ เห็น ด.ช.เอ็ม จะจมน้ำ จึงเอามือยื่นไปให้ ด.ช.เอ็ม จับเพื่อจะช่วยดึงขึ้นมา แต่ดึงขึ้นไม่ได้ กลับถูกดึงลงไปในบ่อน้ำอีกคน เด็กชายทั้ง 2 คน พยายามจะดิ้นรน เพื่อพยุงร่างกายขึ้นจากบ่อน้ำแต่ขึ้นไม่ได้ ขณะที่ผู้เป็นแม่ ด.ช.เอ็ม เห็นเหตุการณ์ ลูกและหลานกำลังจะจมน้ำ ได้กระโดดลงไปบ่อน้ำอีกคน เพื่อช่วยเด็กสองคน ได้ใช้มือดันร่าง ด.ช.โอม ผู้เป็นหลาน อายุ 8 ขวบ ขึ้นจากน้ำได้รอดปลอดภัย จากนั้นพยายามช่วยลูกชาย แต่กลับจมน้ำเสียชีวิตไปทั้งคู่
ด้าน นายกุน มิตุตาวงค์ อายุ 68 ปี ชาวบ้านโคกจ๊ะ ผู้ที่ลงไปในบ่อนำร่าง 2 แม่ลูกขึ้นจากบ่อน้ำ กล่าวว่า ช่วงเวลาประมาณเที่ยงเศษๆ ตนกำลังหว่านแห ท้ายสระน้ำหนองตาวิน ไม่ไกลจากบ่อน้ำมากนัก ได้ยินเสียงชาวบ้านที่มาหาปลาที่สระน้ำตาวิน ว่า มีคนจมน้ำตาย 2 คน แม่ลูก ขอให้ตนมาช่วยเอาร่างขึ้นจากบ่อด้วย จากนั้นตนได้วิ่งมาที่บ่อน้ำ ช่วงนั้นมีชาวบ้านหลายคน พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้านก็มาด้วย ไปปรึกษากันว่า ต้องช่วยเอาร่าง 2 แม่ลูกขึ้นจากบ่อน้ำก่อนให้เร็วที่สุด และขอให้ทุกคนที่มาที่เกิดเหตุเป็นพยานให้ตนว่า ตนเองไม่ได้ทำอะไรเสียหายแก่ 2 แม่ลูก ตนถึงจะกล้าที่จะลงน้ำงมเอาศพขึ้นมา ทุกคนตกลงว่าเป็นพยานให้ จึงได้ลงไปเอาศพ 2 แม่ลูกขึ้นจากบ่อ โดยพบว่าศพผู้เป็นแม่ยังไม่จมน้ำเนื่องจากเสื้อที่ใส่ทำให้พยุงตัวไว้ทำให้ศพลอยน้ำ ส่วนลูกชายจม ตนเองต้องมุดน้ำลงไปงมศพขึ้นมา
ด้าน นายวิทยา จิตเดียว พ่อน้องโอม ที่รอดชีวิตมาได้ กล่าวว่า ตอนที่ตกลงไปแม่ที่เสียได้ดันลูกตนขึ้นมาก่อน จากนั้นได้พยายามช่วยลูกชายที่จมน้ำ เลยจมน้ำเสียชีวิตทั้งแม่และลูก น่าสงสารมาก
ผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นสุนัขเพศผู้ตัวหนึ่งสีน้ำตาล-ดำ นั่งเฝ้าศพของ 2 แม่ลูกไม่ห่าง บางครั้งนอนเฝ้า บางครั้งเดินรอบๆวนไปวนมาไม่ห่างร่างของ 2 แม่ลูก ผู้สื่อข่าวสอบถามพ่อของ ด.ช.โอม ผู้รอดชีวิต ทราบว่า สุนัขตัวนี้อายุราว 7 ปี เป็นสุนัขตนเอง มันจะสนิทกับป้าจ๊าบ และมันได้ตามผู้ตายไปสระน้ำ กระทั่งป้าจ๊าบจมน้ำเสียชีวิตมันก็ยังเฝ้าอยู่ตลอดเวลา.
