เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (26 ธ.ค.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ พร้อมเจ้าหน้าที่ ร่วมกันจับกุมนายณัฐอินทรทัช อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ 622/2565 ลงวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2565 ข้อหาฉ้อโกง จับกุมได้ที่บริเวณลานจอดตลาดรถวิน ภายในซอยศรีนครินทร์ 40 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ 

สืบเนื่องจากเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2565 นายณัฐอินทร์ทัช ได้หลอกขายสร้อยคอทองคำปลอมหนัก 2 บาท ให้กับสาวพริตตี้  โดยหลอกให้โอนเงินค่าทองเป็นจำนวนเงิน 30,000 บาท เพื่อแลกกับสร้อยทองคำปลอมดังกล่าว ต่อมาผู้เสียหายได้ เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทั่งวานนี้ (26 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนครบาล ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวน

จากการสอบสวนนายณัฐอินทร์ทัช ให้การปฏิเสธในชั้นจับกุมว่า ไม่ได้มีเจตนาหลอกขายทองคำปลอมดังกล่าวให้กับสาวพริตตี้ผู้เสียหาย แต่เนื่องจากตนได้รับซื้อทองคำดังกล่าวมาจากผู้เล่นเสียพนันรายหนึ่ง โดยที่ไม่ทราบว่า ทองดังกล่าวเป็นของปลอม จากนั้นมีความเดือดร้อนเรื่องเงิน จึงให้สาวพริตตี้ผู้เสียหาย โอนเงินเข้ามาในบัญชีของตน จำนวน 30,000 บาท เพื่อแลกกับสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อคำให้การ เนื่องจากสืบสวนข้อมูลพบว่า ผู้ต้องหามีความรู้ในเรื่องการสั่งทำเครื่องประดับและสั่งทำกรอบพระ ที่ทำจากเงินและทองไม่บริสุทธิ์ ซึ่งมีร้านรับทำกรอบพระเป็นของตัวเอง เปิดอยู่ที่ย่านศรีนครินทร์ จึงมีความรู้ในแหล่งซื้อเครื่องประดับและทองปลอมในราคาเพียงหลักพันบาท ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมสังเกตพบว่า ผู้ต้องหาได้ใส่เครื่องประดับเหมือนทองคำที่คอ และข้อมือเมื่อสอบถามได้ให้การว่า เครื่องประดับที่ตนสวมใส่นั้นเป็นทองคำปลอม ที่ตนซื้อมาในราคาหลักพัน เพื่อให้ดูมีฐานะและดึงดูดเพศตรงข้าม โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงเที่ยวกลางคืนและสาวพริตตี้

จากการตรวจสอบประวัติพบว่า ผู้ต้องหาเคยถูกดำเนินคดีมาแล้ว 2 ครั้ง คือ ปี 2554 ถูกจับกุมข้อหา “ฉ้อโกง” ท้องที่ สน.หัวหมาก ครั้งนั้น มีพฤติการณ์หลอกนำพระปลอมไปหลอกให้ผู้เสียหายเช่าบูชา มูลค่าความเสียหายกว่า 200,000 บาท และปี 2557 ถูกจับกุมข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” ท้องที่ สน.โชคชัย ครั้งนั้น มีพฤติการณ์ชักชวนผู้เสียหายไปร่วมรับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ก่อนจะฉวยโอกาส ขณะที่ผู้เสียหายเข้าห้องน้ำ ลักเอาทรัพย์สินที่อยู่ภายในซองเอกสาร ซึ่งเป็นเงินสดกว่า 100,000 บาท พร้อมเอกสารสำคัญของผู้เสียหายไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป