ขยายแอลทีวี

วรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน บอกว่าในปี 2566 มองว่ายังคงมีหลายปัจจัยที่กระทบต่อธุรกิจ รวมถึงปากท้องของคนไทย ฉะนั้นหากให้เสนอของขวัญปีใหม่ที่รัฐบาลดำเนินการเพื่อชโลมใจให้กับประชาชน ก็อยากให้รัฐบาลชะลอมาตรการต่าง ๆ ที่จะกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชน อาทิ การปรับขึ้นดอกเบี้ย ก็ไม่อยากให้ขึ้นมากกว่านี้ หรือมาตรการเก็บภาษีการขายหุ้น ก็ไม่อยากให้มีเพราะจะฉุดให้ตลาดหุ้นขาดสภาพคล่อง

ส่วนในภาคอสังหาริมทรัพย์ ก็อยากให้นำมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย (แอลทีวี) กลับมาพิจารณาใหม่ รวมถึงช่วยลดค่าธรรมเนียมการ โอน ที่สำคัญที่สุดคือเลื่อนการปรับขึ้นค่าไฟ เพราะถือเป็นต้นทุนสำคัญของการก่อสร้างบ้าน และมาตรการปรับขึ้นค่าแรง ซึ่งอยากให้พยุงมาตรการเหล่านี้เอาไว้ก่อน เพราะหากมาตรการเหล่านี้มาพร้อมกัน เอกชน  จะรับปัญหาเหล่านี้ไม่ไหว อาจต้องม้วนเสื่อปิดกิจการไปในที่สุด

อุ้มรากหญ้า-ไม่เอื้อรายใหญ่

อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัยและที่ปรึกษาการลงทุน ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย กล่าวว่า ต้องการให้รัฐบาลมีของขวัญปีใหม่ที่จะเข้ามาช่วยให้คนตัวเล็กโดยเฉพาะภาคธุรกิจรายเล็ก ๆ ได้มีรายได้มีเงินเพิ่มขึ้น ไม่ใช่นโยบายขนาดใหญ่ เพราะตอนนี้รายได้กระจายตัวไม่ทั่วถึง เช่น อาจมีสนับสนุนท่องเที่ยวเมืองรอง เพราะไทยต้องได้รับแรงหนุนจากการท่องเที่ยวเป็นพระเอกในการฟื้นเศรษฐกิจ

นโยบายรัฐไม่ควรเอื้อรายใหญ่ แต่ควรลงไปที่เมืองรอง ๆ มากกว่าหัวเมืองใหญ่ เพราะหัวเมืองใหญ่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติไปอยู่แล้ว แต่ในขณะที่เมืองเล็ก ๆ ควรให้คนไทยเที่ยวไทย เพื่อช่วยร้านค้าธุรกิจเล็ก ๆ เช่นเดียวกับการเพิ่มเติมของรายได้ ช่วยคนจน กลุ่มเปราะบาง ซึ่งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐก็ทิ้งไม่ได้ แต่ควรเปลี่ยนเงินเป็นงาน เพราะการให้เงินอย่างเดียวไม่ยั่งยืน ควรมีโครงการและสร้างงานให้คนท้องถิ่นมีรายได้มากกว่า

ใช้เทคโนโลยี-เพิ่มรายได้

ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บอกว่า อยากให้รัฐบาลทำรายได้ของทุกฝ่ายเพิ่มขึ้น รวมทั้งนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้มากขึ้น เพื่อช่วยลดขั้นตอนการทำงาน การคิดค่าไฟฟ้าที่สมเหตุสมผล ส่วนของขวัญอื่น ๆ ที่อยากได้ล่าสุดรัฐบาลให้มาสมเหตุสมผลเยอะมากแล้ว เช่น มาตรการช้อปดีมีคืน หักลดหย่อนภาษีได้ 40,000 บาท มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอน และจดจำนอง รวมทั้งโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5  

“สิ่งที่อยากได้คือการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้กับภาคเอกชน ซึ่งเข้าใจว่าปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ลำบาก น้ำมันแพง ค่าครองชีพแพง โดยส่วนตัวผมมองว่าคนไทยเองโชคดีกว่าหลาย ๆ ประเทศ ยังมีประเทศอื่น ๆ ที่ลำบากมากกว่า”

วอนรัฐช่วยตรึงค่าไฟ

อัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ ผู้ให้บริการห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี บอกว่า ของขวัญปีนี้อยากให้รัฐบาลชะลอการขึ้นค่าไฟฟ้า เพราะตอนนี้ค่าไฟฟ้าของภาคธุรกิจสูงมาก ฉะนั้นถ้าค่าไฟเท่าเดิมจะดีมาก เพราะปี 2565 ก็เพิ่มขึ้นมาแล้ว 10-20% ซึ่งในช่วง 6 ปีมานี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

นอกจากนี้ยิ่งในปี 2566 ภาคการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวก็ต้องใช้ไฟฟ้าเยอะ โดยเฉพาะการเปิดแอร์อาจทำให้อารมณ์ของการตื่นเต้นกับการต้อนรับนักท่องเที่ยวหายไป และมีโอกาสที่จะเป็นปัจจัยกดดันให้มีการปรับขึ้นราคาสินค้าขึ้นอีก

นอกเหนือจากนี้ ต้องดูสถานการณ์น้ำมันอย่างใกล้ชิด เพราะหากน้ำมันขึ้น ทุกอย่างก็จะปรับขึ้นหมดทั้งค่าขนส่ง ราคาน้ำมันปาล์ม และราคาสินค้า

ร่วมมือ-ใช้กฎหมายเท่าเทียม

สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวถึงของขวัญสิ่งที่อยากเห็นในปี 2566 คือการทำงานร่วมกันแบบ 3 ประสาน คือภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด โดยในส่วนภาคเอกชน ต้องทำงานด้วยแนวคิดเศรษฐกิจแบบแบ่งปัน ปลาใหญ่ หรือองค์กรใหญ่ ต้องช่วยองค์กรเล็กหรือปลาเล็ก 

ส่วนภาครัฐอยากให้เปลี่ยนจากบทบาทผู้กำกับควบคุมมาเป็นผู้สนับสนุน และที่สำคัญมาก ๆ ก็คือต้องใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม เพื่อให้เป้าหมายสร้างความแข็งแกร่งเกิดขึ้นได้จริง ในส่วนของภาคประชาชนอยากให้มีความเข้มแข็ง ทั้งทางด้านการพัฒนาความรู้ และทักษะ เพื่อให้อยู่ได้อย่างดีในโลกใหม่ที่กำลังจะก้าวเข้ามา ทั้งหมดคือของขวัญที่อยากได้ และอยากให้เกิดขึ้นในปีหน้า

ขอรัฐกระตุ้นลงทุน

วิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน ระบุว่า อยากให้รัฐบาลขับเคลื่อนการเติบโตเศรษฐกิจประเทศเพื่อให้การฟื้นตัวกลับมาอย่างเข้มแข็งอีกครั้ง รองรับการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ ที่มุ่งไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมขั้นสูงที่มีมูลค่าเพิ่ม ดังนั้น อยากเห็นการลงทุนของภาครัฐในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกรวดเร็ว เอื้อต่อภาคการผลิต เช่น การเดินหน้ารถไฟความเร็วสูงที่จะเป็นปัจจัยสนับสนุนการลงทุนในอีอีซี

รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านอื่น ๆ เพื่อรองรับกับการขยายตัว ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้า น้ำประปา ที่ต้องเป็นส่วนสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมและที่อยู่อาศัย ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานในระบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องผลักดันนอกเหนือจากการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีของไทย

เพิ่มเที่ยวบินรับจีนเปิดประเทศ

ศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) มองว่าอยากให้รัฐบาลทำการตลาดเชิงรุกมากกว่านี้ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวกลับมาให้เท่าปี 2562 ก่อนการระบาดโควิด รวมถึงเมื่อหลายประเทศเปิดแล้ว ก็อยากให้รัฐบาลเตรียมพร้อมเร่งฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว และดึงสายการบินกลับมาให้มากที่สุด โดยเฉพาะหากนักท่องเที่ยวชาวจีนที่กลับมาเปิดประเทศต้นปี ไม่เช่นนั้นจะเสียโอกาส ขณะเดียวกันอยากให้รัฐบาลหานักท่องเที่ยวกลุ่มประเทศใหม่ ๆ เข้ามาด้วย  

โดยเฉพาะกลุ่มประเทศตะวัน ออกกลางที่เป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพ ใช้จ่ายสูง ขณะที่นักท่องเที่ยวระยะใกล้ก็อยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญโดยเพิ่มเที่ยวบินเพราะเป็นกลุ่มที่มาแรงของปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย เวียดนาม อินเดีย หรือสิงคโปร์

ขอให้มีสลากฯนำไปขายได้เพียงพอ

ประสาน น้อมจันทึก ตัวแทนกลุ่มสลาก 5 ภาค กล่าวว่า สิ่งที่ฝันและอยากให้รัฐบาลทำให้เกิดขึ้นจริงในช่วงปีใหม่ที่มาถึงนี้ คือการให้สำนักงานสลากฯ สามารถจัดสรรลอตเตอรี่มาให้กับคนขายตัวจริง พร้อมเร่งลงโทษตัดสิทธิคนขายที่นำสลากไปขายต่อให้กับแพลตฟอร์มหรือ ยี่ปั๊ว ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้สลากมีราคาแพงและปัญหาตามมา โดยเฉพาะกลุ่มสมาคมและมูลนิธิที่รับสลากไปขายต่อ อยากให้ยกเลิกไม่ต้องจัดสรรผ่านตัวกลางและให้ผู้พิการรับสลากตรงกับสำนักงานสลากไปขายแทน

นอกจากนี้อยากให้เร่งผลักดันการทำผลิตภัณฑ์ใหม่ แอล 6 หรือสลากเลข 3 หลัก หรือเอ็น 3 ออกมาโดยไวเพิ่มทางเลือกให้ผู้ซื้อ โดยเฉพาะแอล 6 หากทำได้จะช่วยแก้ปัญหาการเบียดบังโควตาจากสลากใบไปได้ ช่วยขยายโอกาสให้คนขายตัวจริงมีโอกาสเข้าถึงลอตเตอรี่ได้ง่ายขึ้น แต่รัฐบาลไม่จำเป็นต้องเพิ่มสลาก

แม่บ้านขาดตลาด-เพิ่มซอฟต์โลน

มาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย เผยว่าอยากให้รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือทางการเงิน เช่น สินเชื่อฟื้นฟู ดอกเบี้ยต่ำ หรือซอฟต์โลนอีก เช่น ดอกเบี้ยไม่เกิน 3% ต่อปี รวมถึงให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชะลอการขึ้นดอกเบี้ย รวมถึงมาตรการช่วยเหลือลดต้นทุน เช่น ลดราคาวัตถุดิบอาหาร ลดค่าน้ำ-ค่าไฟ และลดภาษีต่าง ๆ

นอกจากนี้อยากให้รัฐบาลดูแลด้านแรงงาน เช่น กำหนดมาตรฐานค่าแรงขั้นต่ำของโรงแรม สนับสนุนฝึกอบรมพนักงานและสร้างบุคลากรรองรับตลาดเพื่อบรรเทาปัญหาขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะแม่บ้านที่มีการแย่งชิงกันสูง เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นแรงงานข้ามชาติที่หลังการระบาดของโควิดยังไม่เดินทางกลับมาเลย จึงอยากให้รัฐบาลเร่งเจรจาเพื่อให้ประเทศต้นทางยอมผ่อนปรนเปิดประเทศ เพื่อดึงแม่บ้านต่างชาติกลับเข้ามา

เหล่านี้ก็เป็นของขวัญปีใหม่ ที่เหล่าภาคเอกชน อยากให้รัฐบาลดูแลเพิ่มเติม เพราะท่ามกลางเศรษฐกิจปี 2566 ที่ไม่แน่นอน หากได้ของขวัญที่ตรงเป้าหมายเข้ามาเพิ่ม ก็จะช่วยให้เดินหน้าธุรกิจได้อุ่นใจขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว.