จากกรณีเยาวชนอายุ 13-16 ปี จำนวน 5 คน ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่น PCX สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 สีน้ำเงินทะเบียน 1 กข-66 บุรีรัมย์ ใช้อาวุธปืนปากกา และอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ จำนวน 2 กระบอก ยิงขู่แล้วเข้าปล้นร้านขายใบกระท่อมริมทาง บริเวณตรงข้ามเทศบาลเมืองนางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้ใบกระท่อมไปจำนวน 2 กก. แล้วหลบหนีไป กระทั่งตำรวจสืบทราบนำมาสู่การจับกุมได้เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ก.พ. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ร้านขายใบกระท่อมดังกล่าว ได้สอบถามนายเอ (นามสมมุติ ) อายุ 15 ปี ลูกชาย เจ้าของร้านขายกระท่อม เล่าว่า วันเกิดเหตุได้เฝ้าร้านแทนแม่ออกไปซื้อของ จากนั้นได้มีกลุ่มวัยรุ่น จำนวน 5 คน ขับรถจักรยานยนต์มา 2 คัน จากนั้นก็ยืงปืนมาทางร้าน 1 นัด ตนจึงตกใจดูท่าทีก่อนว่าจะเอาไงต่อ จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวขับรถวนมาทางร้าน ตนจึงคว้ารถจักรยานยนต์เพื่อขับหนี จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นได้ปล้นเอาใบกระท่อมที่ร้านไปจำนวน 2 ถุง น้ำหนัก 2 กิโลกรัม แล้วขับหลบหนีไป ตนยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกลุ่มวัยรุ่นนี้มาก่อน

ด้านนายศิริชัย ชูศรีธรรม อายุ 43 ปี เจ้าของร้านขายใบกระท่อม เล่าว่า ตนมีอาชีพขายอุปกรณ์ประดับยนต์ริมทาง จึงอยากจะหารายได้เพิ่ม ด้วยการขายใบกระท่อมที่ถูกกฎหมาย และเพิ่งเริ่มขายมาได้เพียง 2 วันก่อนเกิดเหตุ โดยให้ลูกชายมาเฝ้าร้านใบกระท่อมแทน

“ต่อมาลูกชายได้โทรมาแจ้งว่ามีคนไล่ยิง จึงวิ่งหนีออกจากร้าน จนกระทั่งลูกชายมาเล่าให้ฟัง พร้อมกับเอาคลิปขณะโดนกลุ่มวัยรุ่นไล่ยิง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกไม่ดี ที่ผู้ก่อเหตุเป็นเพียงเยาวชนอายุไม่มาก จึงขอเลิกขายใบกระท่อมอย่างเด็ดขาด อยากให้ผู้ใหญ่มีการแก้ไขปัญหาในลักษณะนี้ เพราะเกรงว่าจะมีการเลียนแบบ” เจ้าของร้าน กล่าว.