เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ที่วัดราษฎร์ประคองธรรม อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นายสมพล สุระสัจจะ ปลัดอำเภอบางใหญ่ นายธานี พิกุลทอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ อส.บางใหญ่ ได้ควบคุมตัว นายบุญค้ำ อายุ 45 ปี หลังแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์เข้าไปขอรับบิณฑบาต ข้าวสาร อาหารแห้ง และปัจจัยอื่นๆ ที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบางใหญ่ จ.นนทบุรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังหลอกพระสงฆ์อีก 2 รูปใน จ.สระบุรี ให้เดินทางมาร่วมรับกิจนิมนต์ด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า นายบุญค้ำ ไม่ใช่พระสงฆ์จริง จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่วัดราษฎร์ประคองธรรม โดยมี พระมหาวิศรุต นริสสโร เลขาฯ เจ้าคณะอำเภอบางใหญ่ ร่วมตรวจสอบก็พบว่า นายบุญค้ำ เคยถูกจับสึกในข้อหาเรี่ยไรมาแล้วหลายครั้ง ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา ถูกจับสึกที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี ไม่เข็ดหลาบ หวนกลับมาก่อเหตุซ้ำ

นายสมพล กล่าวว่า สืบเนื่องจาก นายบุญค้ำ ได้แต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์เดินทางมาที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อทำเรื่องขอเรี่ยไรข้าวสาร อาหารแห้งและปัจจัยอื่นๆ โดยมีการนำใบอนุโมทนาบุญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าของวัดแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ มาแสดงให้เจ้าหน้าที่ดูและนัดมารับบิณฑบาตในวันนี้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งมันผิดปกติที่พระลูกวัดจากต่างจังหวัดจะเดินทางมาขอรับบิณฑบาตอีกจังหวัดหนึ่ง จึงประสานไปที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนนทบุรีให้ช่วยตรวจสอบ จนทราบว่า นายบุญค้ำ ไม่ได้เป็นพระสงฆ์จริง และเพิ่งถูกจับสึกไปเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา ข้อหา เรี่ยไร่ จากนั้นจึงวางแผนทำทีเป็นอนุญาตให้มารับบิณฑบาตที่อำเภอได้ ปรากฏว่า นายบุญค้ำ เดินทางมาพร้อมพระสงฆ์รวม 3 รูป จึงแสดงตัวขอตรวจสอบก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่วัดราษฎร์ประคองธรรม

นายบุญค้ำ ให้การรับสารภาพว่า ไม่ใช่พระจริง ก่อนหน้านี้เคยบวชเป็นพระและมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในข้อหาเรี่ยไรใน จ.ปทุมธานี ก่อนถูกจับสึก จากนั้นจึงได้เดินทางไปขอบวชหน้าไฟที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.สระบุรี แต่ไม่เคยอยู่ที่วัดดังกล่าวเลย ส่วนสาเหตุที่ทำลงไปเพราะต้องการนำของที่ได้จากการบิณฑบาตในครั้งนี้ไปใช้ดำรงชีพตัวเองเนื่องจากไม่มีอาชีพ จึงตัดสินใจทำเรื่องดังกล่าว ส่วนพระสงฆ์อีก 2 รูปที่มาด้วย ตนก็หลอกว่ามีกิจนิมนต์ที่อำเภอบางใหญ่ เพื่อที่จะได้ดูน่าเชื่อถือเวลาเดินทางมารับบิณฑบาต

ด้าน พระสงฆ์ทั้ง 2 รูปที่ถูกหลอก กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้จักกับ นายบุญค้ำ แต่อย่างใด จนเมื่อวันที่ 5 ก.พ. 66 นายบุญค้ำ ได้ขับรถเดินทางมาที่วัดพร้อมกับหญิงสาวคนหนึ่งเพื่อมาขอเจ้าอาวาสวัดบวชเณรหน้าไฟ ทางวัดจึงบวชให้ หลังบวชเสร็จ นายบุญค้ำ ก็เดินทางกลับไปไม่ได้พักอยู่ที่วัด หลังจากนั้นอีก 2-3 วัน นายบุญค้ำ ได้เดินทางกลับมาที่วัดอีกครั้งหนึ่งพร้อมพูดจาชักชวนหว่านล้อมให้อาตมาทั้ง 2 รูป ร่วมเดินทางมารับกิจนิมนต์ที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบางใหญ่ ในวันนี้ ซึ่งตนก็ได้ถามแล้วว่ามีการขออนุญาตจากเจ้าคณะจังหวัดหรือยัง นายบุญค้ำ บอกว่า ทำเรื่องขออนุญาตถูกต้องหมดทุกอย่างแล้ว จึงหลงเชื่อเดินทางมาด้วย

นายธานี พิกุลทอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า หลังได้รับการประสานจากทางศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบางใหญ่ ให้ช่วยตรวจสอบพระสงฆ์ที่เข้ามาทำเรื่องขอรับบินฑบาตที่อำเภอ ก็รีบทำการตรวจสอบเอกสารต่างๆ ที่ นายบุญค้ำ นำมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ดูทั้งใบอนุโมทนาบุญของวัดใน จ.เชียงใหม่ บัตรประจำตัวพระสงฆ์ ก็พบว่า นายบุญค้ำ ถูกจับสึกไปเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา ในข้อหาเรี่ยไร จึงแจ้งไปที่อำเภอบางใหญ่ว่า นายบุญค้ำ ไม่ใช่พระสงฆ์ดังที่กล่าวอ้าง ก่อนวางแผนเข้าตรวจสอบดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัว นายบุญค้ำ ส่งพนังงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และหากประชาชนที่เคยถูก นายบุญค้ำ หลอกลวง สามารถเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมได้.