เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่อาคารสุขประพฤติ เขตบางซื่อ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมแกนนำพรรคร่วมเปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง เขตบางซื่อ และเปิดตัว 3 ผู้สมัคร ส.ส. คนรุ่นใหม่

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ประชาธิปัตย์กับพี่น้องชาว กทม. และชาวบางซื่อเราผูกพันกันมายาวนาน ประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่ก่อกำเนิดขึ้นจากนักการเมืองที่มาจาก กทม. หลายท่าน ตั้งแต่ปี 2489 มาจนถึงวันนี้อายุ 76 ปี และ 6 เม.ย. 66 จะครบ 77 ปีบริบูรณ์ ประชาธิปัตย์เคยได้ที่นั่งใน กทม. ถึง 30 ที่นั่ง จากที่นั่งทั้งหมด 36 แปลว่าเกือบจะยก กทม. คราวที่แล้วแม้ประชาธิปัตย์จะไม่มี ส.ส. แม้แต่คนเดียว เพราะอุบัติเหตุทางการเมืองที่พี่น้องทราบดีอยู่แล้ว ตนจำเป็นต้องมาพูดตรงนี้ แต่ว่าเที่ยวนี้มั่นใจว่าจะไม่เหมือนคราวที่แล้ว และทุกอย่างจะดีกว่าคราวที่แล้ว เพราะมันมีสัญญาณเสียงตอบรับจากพี่น้องชาว กทม. บอกกับพวกเราชาวประชาธิปัตย์ เช่น ผลการเลือกตั้งในการแข่งขันเลือก ผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก.ประชาธิปัตย์ แม้ไม่ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. แต่อย่างน้อยเราก็มาที่ 2 ทั้งหมดนี้สะท้อนว่าเสียงตอบรับของชาว กทม. ต่อประชาธิปัตย์จะดีขึ้นกว่าการเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่แล้ว

โดย 4 ปีที่ผ่านมา และอดีตอันยาวนานเราพิสูจน์แล้วว่าประชาธิปัตย์คือผู้นำในระบอบประชาธิปไตยรัฐสภาของประเทศไทย ดังนั้นอย่างน้อยที่สุดเรามีนโยบายที่จะแก้รัฐธรรมนูญไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น ไม่กี่วันมานี้มีการพิจารณาญัตติอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ แต่ว่าหลายพรรค บางพรรคคิดว่าไม่ควรจะให้สภาเปิดการประชุม เดี๋ยวจะมีการอภิปราย เดี๋ยวจะมีการตรวจสอบ แต่ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลก็จริง แต่ไม่เคยกลัวการตรวจสอบ เราคือพรรคการเมืองที่ยืนหยัด มั่นคง ชัดเจน เราสนับสนับสนุนให้มีการเปิดอภิปรายโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 เพราะนี่คือวิถีประชาธิปไตยรัฐสภาที่ประเทศต้องเดินหน้าต่อไป และนี่คือวิถีประชาธิปัตย์ของเรา

นายจุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า วันนี้ถือเป็นอีกกิจกรรมสำคัญที่เป็นความคืบหน้าของการเดินหน้ารับใช้พี่น้องชาว กทม. ของพรรค คือการเปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้งที่เขตบางซื่อ พร้อมกับถือโอกาสเปิดตัว 3 นักบิน ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ในนามพรรค ประกอบด้วย 1.นายภูเบศร์ อภัยวงศ์ (กัปตันเบศร์) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตบางซื่อ 2.นายวัทธิกร หรุ่นศิริ (กัปตันแพท) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตสายไหม 3. นายพันธ์พิสุทธิ์ นุราช (กัปตันไมเคิล) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบึงกุ่ม ทั้ง 3 คน ถือว่าเป็นผู้ที่มีศักยภาพในการเป็นตัวแทนพี่น้องชาว กทม. ที่เป็นคนรุ่นใหม่ โดยหวังว่าจะได้รับเสียงตอบรับจากชาว กทม.

“ขอถือโอกาสนี้ฝากพี่น้องชาว กทม. ทั้ง 3 เขต คือ เขตบางซื่อ เขตสายไหม และเขตบึงกุ่ม ขอความกรุณาให้โอกาสนักบินรุ่นใหม่ทั้ง 3 คน และให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้เราได้มีโอกาส คัมแบ๊ก มาทำหน้าที่รับใช้พี่น้องชาว กทม. เหมือนที่เราเคยมีโอกาสหลายครั้งในการเลือกตั้งที่ผ่านในอดีต”

สำหรับกิจกรรมใน กทม. ถัดจากนี้จะประกอบด้วย 4 กิจกรรม ก่อนเดินหน้าเข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มตัว คือ 1.วันนี้เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. 3 นักบิน 2.เปิดศูนย์เลือกตั้งที่เขตบางนา พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ 3. เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ปชป. ที่เป็นสตรี ซึ่งประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะการเมืองยุคใหม่ นอกจากต้องมีคนรุ่นใหม่เข้ามาเพิ่มเติมแล้ว ต้องมีการเปิดโอกาสให้สตรีเข้ามามีบทบาททางการเมืองมากขึ้นด้วย และ 4. เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ปชป. ทั้ง 33 เขต ในช่วงต้นเดือน มี.ค.

ถัดจากนี้ก็เข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มตัวแล้ว เพราะนายกรัฐมนตรีพูดแล้วว่าจะยุบสภา เพียงแต่ยังนึกอยู่ว่าจะยุบวันไหนอย่างไร ซึ่งท่านบอกว่ามีในใจแล้ว และพวกเราพอทราบว่าสุดท้ายก็จะเดินหน้าเข้าสู่การยุบสภา ซึ่งถ้ายุบสภาก็ต้องเลือกตั้งภายใน 45-60 วัน นับไปนับมาก็คงอยู่ในช่วงต้นเดือน พ.ค. ส่วนวันที่เท่าไรก็น่าจะตรงกับวันอาทิตย์ เพราะเท่าที่เราเคยมีการเลือกตั้งมา ก็จะเลือกตั้งวันอาทิตย์ แล้วก็มีการคาดการณ์กันว่าจะเป็นวันที่ 7 พ.ค. แต่ กกต. จะเป็นผู้กำหนดวันเลือกตั้ง ดังนั้นน่าจะไปตามนี้โดยประมาณ

“ถัดจากนี้การเมืองจะเข้มข้นขึ้น หมายถึงการแข่งขันกันระหว่างพรรคการเมืองก็จะเข้มข้นขึ้น ผมจะถือโอกาสนี้ฝากพี่น้องชาวกรุงเทพฯ และคนไทยทั้งประเทศให้พิจารณาเลือกพรรคการเมืองที่จะเป็นสถาบันหลักในทางการเมืองต่อไปได้ พาการเมืองเดินหน้าไปสู่ความยั่งยืนได้ในอนาคต ไม่ใช่แค่การเมืองเฉพาะกิจ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเราเลือกอนาคตให้ประเทศ หรือเลือกอนาคตที่ยั่งยืนให้ประเทศ ไม่ใช่การเมืองเลือกอนาคตเฉพาะกิจให้ประเทศ ผมยืนยันว่าเรื่องนี้มีความสำคัญ เป็นหลักคิดสำคัญ ส่วนใครจะเป็นรัฐบาล เป็นฝ่ายค้านนั้น พี่น้องประชาชนจะเป็นผู้ให้คำตอบว่า เมื่อหลังเลือกตั้งแล้ว ใครรวมเสียงข้างมากได้ พรรคไหนรวมกับพรรคไหน พรรคนั้นก็เป็นรัฐบาล เสียงข้างน้อยก็ไปเป็นฝ่ายค้าน แต่หัวใจสำคัญก็คือต้องยึดเสียงในสภาผู้แทนราษฎรเป็นหลัก”

สำหรับการแบ่งเขตเลือกตั้ง กทม. ที่ กกต. มีการเพิ่มเป็น 8 รูปแบบ จะมีผลต่อพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ขอลงในรายละเอียด เป็นเรื่องที่พี่น้องชาว กทม. จะได้พิจารณาให้ความเห็น เพื่อให้ กกต. นำไปประกอบการตัดสินใจต่อไป รวมทั้งนักการเมือง หรือผู้สนใจลงสมัครรับเลือกตั้งจากทุกพรรค แต่ขอให้ยุติธรรม และไม่ไปสร้างความได้เปรียบ-เสียเปรียบ ให้พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ถ้าเป็นอย่างนี้ หากจะออกมาอย่างไร ทุกพรรคก็รับได้ ชาว กทม. และคนไทยก็รับได้

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากดูจากตัวผู้สมัครที่พรรคเตรียมไว้ คาดว่าครั้งนี้จะได้ที่นั่งใน กทม. หรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนมั่นใจ มั่นใจจากเสียงตอบรับในการเลือกผู้ว่าฯ กับ ส.ก. ที่ผ่านมา และเสียงตอบรับจากการลงพื้นที่จริง ซึ่งทั้งตน และรองหัวหน้าพรรค รวมทั้งผู้สมัครทุกคน คนรุ่นใหม่พวกเราทุกคน ที่ลงพื้นที่ใน กทม. มีความมั่นใจ เพราะเราสัมผัสกับโลกของความเป็นจริงว่า เสียงตอบรับเป็นอย่างไร

“เทียบกับหลังเลือกตั้งคราวที่แล้วใหม่ๆ ตอนนั้นกับตอนนี้ต่างกัน ดีขึ้นเยอะ ผมต้องขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับพี่น้องชาว กทม. ด้วย ที่ให้เสียงตอบรับที่ดีขึ้น ให้กำลังใจกับพวกเรา และมุ่งมั่นตั้งใจว่าเที่ยวหน้าจะมาช่วยประชาธิปัตย์” นายจุรินทร์กล่าว