เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของ น.ส.จริยา เทพนวน อายุ 34 ปี และนายธนโชติ นิ่มภักดี อายุ 30 ปี สองสามีภรรยา ชาว ต.หนองวัวซอ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี หลังสั่งนิ้วเทียมซิลิโคนจากทางเพจในเฟซบุ๊ก แต่ทางเพจส่งของมาให้ไม่ตรงตามที่สั่งไป พร้อมทั้งนำแชตสนทนากับแอดมินเพจมาให้ดู และหลักฐานการโอนเงิน โดยสั่งซื้อราคานิ้วละ 10,000 บาท สั่ง 3 นิ้วรวม 30,000 บาท

น.ส.จริยา เปิดเผยว่า เริ่มจากแฟนประสบอุบัติเหตุทำงาน ถูกเครื่องปั่นหญ้าปั่นนิ้วมือข้างซ้าย นิ้วชี้ นิ้วกลางและนิ้วนาง ขาดแบบไม่เหลือตอนิ้ว เลยได้หาข้อมูลทางช่องทางอินเตอร์เน็ตเรื่องเกี่ยวกับการทำนิ้วเทียม และได้ เจอเพจเฟซบุ๊ก ตนจึงติดต่อไป ซึ่งทางเพจก็ได้ลงเว็บไซต์ของสำนักงานข่าว ตนจึงค่อนข้างที่จะเชื่อมั่นในการทำว่าไม่โดนหลอกอย่างแน่นอน เมื่อปลายเดือน พ.ย. 65 จึงได้ติดต่อกับนายคัมภีร์ เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก ซึ่งได้เสนอราคาการทำนิ้วเทียมในราคานิ้วละ 10,000 บาท โดยทำได้ 2 ช่องทางคือเดินทางมาหล่อแบบนิ้วด้วยตัวเองที่ จ.นนทบุรี และทำแบบออนไลน์มีวิธีวัดนิ้วบอกและมีแผ่นเทียบสีผิวส่งไปให้เทียบ แต่แบบออนไลน์มีเก็บค่ามัดจำก่อนครึ่งราคาเพื่อเป็นการยืนยัน ส่วนที่เหลืออีกครึ่งรอชำระเมื่องานเสร็จ ซึ่งถ้ามาหล่อแบบด้วยตัวเองจะเก็บยอดชำระทั้งหมดในวันนั้นเลย

น.ส.จริยา เผยต่อว่า ตนจึงได้ตกลงทำและโอนค่ามัดจำไป 15,000 บาท ในวันที่ 25 พ.ย. 65 ที่ผ่านมา ซึ่งทางนายคัมภีร์ ได้ส่งแผ่นเทียบสีและสายวัดนิ้วมือมาให้ ต่อมาตนได้รับแผ่นเทียบและสายวัดนิ้วก็ได้ทำการวัดนิ้วเทียบสีนิ้วและส่งรูปภาพให้นายคัมภีร์ ในทางแชตเฟซบุ๊ก เมื่อทุกอย่างโอเค ตนก็ได้ส่งที่อยู่เพื่อส่งแผ่นเทียบสีและสายวัดกลับไป แต่นายคัมภีร์ ได้ส่งภาพนิ้วที่กำลังทำให้ดูมีแค่สองนิ้ว จึงได้ทักท้วงไปว่าไม่ใช่ของตน นายคัมภีร์ ก็แจ้งว่าเดียวจะทำการแก้ไขเพิ่มนิ้วให้ครบและขอแบ่งเก็บเงินอีก 5,000 บาท นายคัมภีร์ ได้ส่งภาพนิ้วมือที่เสร็จแล้วให้ดูทางแชต แต่ในภาพสีนิ้วมันคล้ำมาก จึงทักไปถาม นายคัมภีร์แจ้งว่าถ่ายในห้องทำงานจึงดูคล้ำกว่าปกติ และได้ขอเก็บเงินส่วนที่เหลืออีก 10,000 บาท แล้วก็นัดวันส่งนิ้วเทียมมาให้ พอถึงวันนัดก็บ่ายเบียงไปเรื่อย แล้วก็ไม่ตอบแชต

น.ส.จริยา กล่าวต่อไปว่า นายคัมภีร์แจ้งว่าได้ส่งนิ้วเทียมให้แล้ว แต่ไม่มีเลขพัสดุยืนยัน ตนก็รอจนมีพัสดุมาส่งในวันที่ 19 ธ.ค. 65 ที่ผ่านมา แต่ไม่ใช่นิ้วเทียมที่สั่งไป จึงแจ้งกลับไปว่าสิ่งที่ได้ไม่ตรงตามที่สั่ง นายคัมภีร์แจ้งกลับมาว่าในวันที่ส่งของนั้นได้ส่งพร้อมกันกับลูกค้าอีกคน อาจจะสลับกัน ซึ่งก็ได้ให้เบอร์ติดต่อคนที่ส่งสลับกันให้ตนติดต่อ เพื่อส่งของแลกเปลี่ยนกัน โดยลูกค้าคนนั้นชื่อเก่ง ตนได้ติดต่อกันทางแชตไลน์ แต่มาเอะใจว่าอาจเป็นการเตี๊ยมกัน ระหว่างนายคัมภีร์ และนายเก่งเพราะในโพสต์ไลน์ของนายเก่งมีภาพโปรโมตนิ้วเทียมของนายคัมภีร์ อยู่หลายโพสต์ ต่อมานายเก่งได้ส่งของกลับมาให้ตน พอแกะออกดูก็ไม่ใช่อย่างที่คิด ของที่อยู่ในนั้นเป็นถุงมือยางที่ถูกตัดนิ้วโป้งกับนิ้วก้อยออกเหลือไว้ 3 นิ้ว ที่สำคัญกว่านั้นมันเล็กมากจนไม่สามารถสวมเข้าไปได้ จึงแจ้งทางนายคัมภีร์ กลับไป และนายคัมภีร์แจ้งว่าจะทำให้ใหม่ แต่ต้องรอให้กลับจากถือศีลภาวนาก่อน 10 วันแต่รอบนี้ต้องใช้ปูนหล่อมือเพื่อความแม่นยำและขอเก็บเงินเพิ่ม 300 บาทเพื่อซื้อปูนหล่อมือ

น.ส.จริยา กล่าวอีกว่า ทางนายคัมภีร์ ได้ส่งปูนหล่อมือมาให้ เมื่อของมาถึง ตนได้ทำการผสมปูนหล่อมือและส่งกลับไป โดยแจ้งว่าจะรีบทำการขึ้นนิ้วใหม่ให้เร็วที่สุด แต่ผ่านไปจนถึงวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนทักไปทวงถามว่านิ้วเทียมเสร็จหรือยัง แต่เป็นแฟนของนายคัมภีร์ตอบกลับมาแทนว่านายคัมภีร์น๊อกเข้าโรงพยาบาล ซึ่งตนไม่เชื่อจึงใช้อีกเฟซทักไป ปรากฎว่าเป็นตัวนายคัมภีร์ ที่ตอบกลับมา จึงคิดว่าถูกหลอกแน่ๆ แล้ว จึงแจ้งนายคัมภีร์ ทางแชตไลน์ว่าให้โอนเงินคืนมาทั้งหมด 30,000 บาท กลับถูกส่งคลิปเสียงมาในทางแชตไลน์ต่อว่าหยาบคายและยังไม่ได้รับเงินคืนจนถึงวันนี้ ซึ่งตนได้เช็กดูมีผู้เสียหายที่โดนเหมือนกับตนประมาณ 6 คน แต่ตนเสียเงินมากที่สุด หลังจากนี้ตนก็จะพาสามีไปทำที่สถาบันสิรินธร

“อยากฝากไปถึงนายคัมภีร์ว่าขอคืนเงินมาให้ส่วนหนึ่งก็ได้ ไม่อยากได้นิ้วมือแล้ว เพราะว่ารอมา 3 เดือน คนที่ทำก็ต้องรับผิดชอบทุกอย่างค่าใช้จ่ายพวกเราก็ออกให้ และนิ้วเทียมที่สั่งก็ได้ไม่ตรงตามที่สั่งมาอีกด้วย” น.ส.จริยา กล่าว