กรณี นายจีรวัฒน์ (สงวนนามสกุล) ชาว ต.บางนายสี อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา นำภาพใบหน้าของลูกสาวอายุ 7 ขวบ เรียนชั้น ป.1 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอตะกั่วป่า จ.พังงา มีร่องรอยช้ำเป็นรอยนิ้วมือ และคลิปวิดีโอที่ลูกสาวบอกว่าโดนครูตบหน้า โพสต์เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ และทางพ่อได้พาลูกสาวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตะกั่วป่า แล้วได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ตะกั่วป่า เพื่อต้องการดำเนินคดีกับครูคนดังกล่าวตามขั้นตอนกระบวนการตามกฎหมาย ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว จนทำให้ลูกสาวไม่กล้าไปโรงเรียนอีกเลย ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

จนท.เตรียมลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริง20ก.พ. ปมครูโหดตบป.1หน้าหัน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 20 ก.พ. พ.ต.ท.อนันต์ เกื้อบุญแก้ว รอง ผกก.สอบสวน สภ.ตะกั่วป่า ได้เปิดเผยว่า ทางด้านคดีได้นัดหมายสอบปากคำผู้ปกครอง พ่อ แม่ เด็กแล้ว ซึ่งวันนี้จะนัดสอบปากคำเด็กต่อหน้าสหวิชาชีพ เพื่อรวบรวมหลักฐานดำเนินคดี และจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ขณะที่ครูที่ถูกกล่าวหา ก็ได้เข้ามาแจ้งความว่าการโพสต์กล่าวหานั้น ทำให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้กระทำตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด ขณะที่ น.ส.จอมขวัญ นครไธสง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพังงา ได้สั่งการให้รองผู้อำนวยการฯ ลงพื้นที่โรงเรียนบ้านบางใหญ่ เพื่อดำเนินการสอบสวนแสวงหาข้อเท็จจากผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อดำเนินการต่อไป โดยจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย

ขณะที่โรงเรียนเกิดเหตุ นายไพฑูรย์ สนธิเมือง รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพังงา พร้อมด้วย นางมาลี ณ ถลาง นักวิชาการศึกษาสำนักงานศึกษาการจังหวัดพังงา ว่าที่ร้อยตรีบุญเลิศ สุวรรณรัตน์ ประธานศูนย์ประสานงานการประถมศึกษาอำเภอตะกั่วป่า คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนบ้านบางใหญ่ และ ผอ.โรงเรียนดังกล่าว ร่วมประชุมสอบสวนข้อเท็จจริง โดยเบื้องต้นได้มีคำสั่งให้ครูที่ถูกกล่าวหาไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพังงาก่อนเป็นการชั่วคราว พร้อมกับตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จเร็วที่สุด โดยจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ขณะที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ สภ.ตะกั่วป่า เข้ามาร่วมดูแลรักษาความเรียบร้อย

นายสมาท นาเจริญ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านบางใหญ่ ในฐานะประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนดังกล่าว เปิดเผยว่า จากการร่วมประชุมพูดคุยวันนี้ ได้ข้อสรุปให้ทางครูผู้ที่ถูกกล่าวหาไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพังงาก่อนเป็นการชั่วคราว พร้อมกับตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จเร็วที่สุด สำหรับในเรื่องของคดีก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนเรื่องอื่น ๆ นั้น ก็ให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบร่วมกัน เพื่อหาข้อเท็จจริง และล่าสุดทาง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพังงา ร่วมกับ เทศบาลตำบลบายศรี เข้ามาในพื้นที่เพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริงในบ่ายวันนี้ อยากขอฝากให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ทำความจริงให้ปรากฏโดยเร็วที่สุด เพื่อหาผู้กระทำความผิด และก็ขอให้ครั้งนี้เป็นบทเรียนให้กับผู้เกี่ยวข้องทุกคน อย่าให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกในครั้งต่อไป.