เมื่อวันที่ 21 ก.พ. เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมสนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าพิสูจน์ทราบเป้าหมาย ซึ่งประชาชนให้ข้อมูลว่า มีผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดในพื้นที่ เข้าไปอาศัยหลบซ่อนตัว ในพื้นที่หมู่บ้านมายอ หมู่ที่ 6 ต.ธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา โดยการปฏิบัติ เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด ด้วยการเจรจาเกลี้ยกล่อมให้คนร้ายที่หลบซ่อนอยู่ภายในบ้านออกมามอบตัว พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากผู้นำท้องที่และผู้นำศาสนาเข้าร่วมเจรจาด้วย แต่ไม่เป็นผล

กระทั่งเวลาประมาณ 05.45 น. คนร้ายตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางหลบหนี ทำเกิดการยิงต่อสู้กันขึ้น เป็นผลให้คนร้ายเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ นายอิบรอเฮม สาและ อายุ 42 ปี มีความเชี่ยวชาญในการประกอบระเบิดแสวงเครื่อง จากการรวบรวมหลักฐานพบว่า มีส่วนร่วมในการลอบวางระเบิดปั๊มน้ำมัน ปตท. สาขาธารโต รวมทั้งลอบวางระเบิดรถยนต์ ตำรวจ สภ.บันนังสตา ซึ่งเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุคนร้ายวางเพลิงเผาเครื่องจักรและยานพาหนะที่ใช้ในการก่อสร้างถนนของ บริษัท ยะลาไฮเวย์ จนทำให้ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ก.พ. 66 รวมทั้ง นายอิบรอเฮม ยังมีหมายจับในคดีความมั่นคง 1 หมาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังตรวจยึดอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ เพื่อนำไปพิสูจน์ทราบหาที่มาและประวัติการก่อเหตุต่อไป

ด้าน พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อญาติของผู้เสียชีวิต พร้อมทั้งขอให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นใจในมาตรการควบคุมพื้นที่และการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งได้ดำเนินการด้วยความระมัดระวังในทุกขั้นตอน ใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก แต่ความสูญเสียที่เกิดขึ้น เกิดจากผู้ก่อเหตุรุนแรงยิงใส่เจ้าหน้าที่ จึงจำเป็นต้องตอบโต้ จนนำไปสู่ความสูญเสียดังกล่าว

ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังคงยืนยันเจตนารมณ์ในการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้กระทำผิดเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้และพิสูจน์ตัวเองตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนผู้ให้ที่พักพิงแก่คนร้ายจะต้องเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติดังกล่าว ซึ่งหากพบเห็นการกระทำผิดกฎหมายหรือพบเบาะแสผู้ก่อเหตุรุนแรง สามารถแจ้งได้ที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงประจำพื้นที่ หรือหมายเลขสายด่วนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หมายเลข 1341 หรือ หมายเลขโทรศัพท์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 หมายเลข 06-1173-2999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.