เมื่อวันที่ 22 ก.พ. นายปรีชา เพชรเลิศ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชลบุรี รักษาราชการผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 ในฐานะประธานคณะทำงานสอบสวนอุบัติเหตุของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 เปิดเผยว่า ตนพร้อมนายฉัตรชัย เวชสาร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ เจ้าพนักงานตรวจเรือ สำนักมาตรฐานเรือ ร่วมกับตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภาค 1 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสถานที่เกิดเหตุ เพื่อรวบรวมข้อมูล และสอบสวนหาสาเหตุกรณีเรือระเบิดและไฟไหม้บริเวณหน้าบริษัทปิยะศิริวานิช จำกัด อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ตามข้อสั่งการ นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการอธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) และกระทรวงคมนาคม

โดยคณะทำงานสอบสวนฯ ได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง จำนวนทั้งสิ้น 8 ราย ซึ่งสรุปเหตุการณ์และสาเหตุในเบื้องต้น ดังนี้ 1.เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 21 ก.พ. 66 เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือไฟฟ้า เรือชื่อ MINE SMART FERRY 29 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหน้าบริษัท ปิยะศิริวานิช จำกัด ลุกลามไปติดเรือ MINE SMART FERRY 27 และเรือ MINE SMART FERRY 28 ที่จอดเทียบอยู่ด้านใน บริเวณโป๊ะเทียบเรือที่เป็นสถานีชาร์จไฟฟ้าของบริษัทเรือ EA โดยเรือที่ได้รับความเสียหายทั้ง 3 ลำยังไม่ได้จดทะเบียนเรือกับกรมเจ้าท่า อยู่ระหว่างรอการส่งมอบ

2.ได้ทำการบันทึกถ้อยคำผู้พบเหตุการณ์คนแรก นายอัครพล (โก๊ะ) ให้ถ้อยคำว่า ขณะเกิดเหตุเรือจอดเทียบอยู่ 5 ลำ ลำที่เป็นต้นเพลิงคือลำ MINE SMART FERRY 29 ซึ่งจอดอยู่ตรงกลาง เห็นควันลอยขึ้นจากเรือลำดังกล่าว จึงรีบเข้าไปใช้ถังดับเพลิงเพื่อดับไฟ และวิ่งไปตัดไฟที่เบรคเกอร์ใหญ่ และนำเรือที่จอดเทียบอยู่ด้านนอกอีกสองลำออกจากโป๊ะเทียบเรือไปก่อนเพื่อป้องกันไฟลุกลาม แต่ไฟลุกลามรวดเร็วและไหม้เรือที่จอดอยู่ข้างเคียงด้านใน อีก 2 ลำ

3.บริษัทฯ ได้ชี้แจงว่า ขณะเกิดเหตุไม่มีการใช้ไฟจากแบตเตอรี่ในเรือ มีเพียงการต่อไฟจากฝั่ง (Shore power) เข้าไปในเรือ เพื่อใช้เป็นไฟส่องสว่างในการเข้าไปดำเนินการต่าง ๆ ซึ่งก่อนเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 66 บริษัทฯ ได้นำเรือ MINE SMART FERRY 27, 28, 29, 30, 31 ซึ่งเป็นเรือที่ได้รับมาใหม่ ไปทดลองเดินเรือโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง เมื่อทดสอบเรียบร้อยแล้ว ได้นำเรือมาจอด และต่อสายไฟจากฝั่ง (Shore power) มาเพื่อใช้ส่องสว่างในเรือ

4.บริษัทฯ แจ้งว่า ลำที่เป็นต้นเพลิงมีพลังงานในแบตเตอรี่เกือบเต็ม ส่วนลำอื่นมีพลังงานอยู่ไม่มาก และช่วงที่เกิดเหตุ ไม่มีกิจกรรมใดๆ บนเรือ แต่ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 20 ก.พ. 66 ทีมช่างเทคนิคลงไปดำเนินการเซ็ตระบบซอฟต์แวร์ของเรือ และมีการเปิดใช้เครื่องปรับอากาศบนเรือ (ช่วงเวลา 14.00-18.00 น.)

จากข้อมูลการสอบสวนเบื้องต้นยังไม่สามารถสันนิษฐานสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ได้ รวมถึงเรือลำต้นเพลิงยังจมทั้งลำไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากเรือที่เกิดเหตุเป็นเรือที่ขับเคลื่อนและควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าทั้งหมด ดังนั้นเพื่อให้ได้ข้อมูลและสาเหตุที่แท้จริง กรมเจ้าท่าจะเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวะกรรมไฟฟ้าอิเล็กทรอนิคและยานยนต์ร่วมตรวจสอบด้วย พร้อมนี้บริษัทฯ จะดำเนินการกู้เรือที่จมให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 23 ก.พ. 66 ทั้งนี้ คณะทำงานสอบสวนสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 จะร่วมกับตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้ทราบสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ และหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะเดียวกันซ้ำอีก