สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ว่า กองกำลังป้องกันอิสราเอล (ไอดีเอฟ) รายงานการปฏิบัติภารกิจด้านความมั่นคงในเขตเวสต์แบงก์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เพื่อติดตามจับกุม “ผู้ต้องสงสัยเป็นสมาชิกกลุ่มหัวรุนแรง” ซึ่งหลบซ่อนตัวอยู่ตามอพาร์ตเมนต์หลายแห่ง โดยกลุ่มคนร้ายขัดขืนและต่อสู้กับเจ้าหน้าที่


ทั้งนี้ ไอดีเอฟยืนยันการวิสามัญผู้ต้องสงสัย “อย่างน้อย 3 ราย” อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขของปาเลสไตน์รายงานจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย มีอายุระหว่าง 16-72 ปี และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 80 คน “จากปฏิบัติการอันก้าวร้าวของอิสราเอล” ด้านนายฮุสเซ็น อัล-ชีค เลขาธิการองค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ (พีแอลโอ) ประณามปฏิบัติการของอิสราเอล “เป็นการสังหารหมู่” และเรียกร้อง “การคุ้มครองจากนานาชาติต่อชาวปาเลสไตน์”


ขณะที่สันนิบาตอาหรับออกแถลงการณ์ประณามอิสราเอล “ก่ออาชญากรรมชั่วร้าย” ส่วนนายเน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลวอชิงตันมีความเข้าใจต่อความวิตกกังวลของอิสราเอลในมิติความมั่นคง แต่มีความวิตกกังวลต่อสถานการณ์รุนแรงระลอกใหม่ในเขตเวสต์แบงก์ ซึ่งส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก


อนึ่ง อิสราเอลยึดครองเขตเวสต์แบงก์ นับตั้งแต่ชนะสงครามหกวัน เมื่อปี 2510 และตามฐานข้อมูลของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอิสราเอลในครั้งนี้ มีความรุนแรงที่สุด นับตั้งแต่ปี 2548.

เครดิตภาพ : REUTERS