ก่อนหน้านี้ก็มีข่าว “ตกปลาในบ่อเพื่อน” ไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ของ “พี่ใหญ่” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรค พปชร. ก็ไม่สนใจหลังลูกพรรคประกาศชัด เสนอ “บิ๊กป้อม” เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรค พปชร. เพียงคนเดียว เช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่เลือดไหลไม่หยุด ลูกพรรคไม่เชื่อมั่นใจผู้บริหารพรรค ขอไปตายดาบหน้า กับ “ลุงตู่” ที่ยังเชื่อว่า มีทั้งกระแส และเสบียงกระสุนดินดำ รวมถึง “อำนาจพิเศษ” ที่จะทำให้กลับมามีอำนาจอีกครั้ง ไม่เว้นแม้แต่พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ที่เป็นเด็กดี ไม่กล้าหือ เปรียบเสมือน “นั่งร้านชั้นเยี่ยม” ก็ยังโดนคนขอ “รทสช.” บุกไปตีท้ายครัวถึง เมืองหลวง จ.สุพรรณบุรี มาแล้ว

ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าการตกปลาในบ่อเพื่อนของ “รทสช.” ได้สร้างความเจ็บปวด ให้กับ พรรคการเมือง ที่ถือเป็นพันธมิตรพรรคร่วมรัฐบาลเดิม 

เท่านั้นไม่พอ ในเรื่องของ นโยบาย ล่าสุด “บิ๊กตู่” ก็เคลมผลงานต่าง ๆ ของพรรคร่วมรัฐบาลที่โดนกันถ้วนหน้า อาทิ เรื่องบัตรคนจน ที่มารีแบรนด์ใหม่เป็น “บัตรสวัสดิการพลัส” โดย “บิ๊กตู่” ไปประกาศนโยบาย เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 66 ที่ จ.นครราชสีมา ในการแจกเงินผู้สูงอายุเดือนละ 1,000 บาท เท่ากับเป็นการตีแสกหน้า “บิ๊กป้อม 700” ที่ประกาศแจกเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการ เดือนละ 700 บาท นอกจากนี้ยังไม่นับการปราศรัยบนเวทีของ “บิ๊กตู่” ที่พยายามเคลมผลงาน เรื่องที่ดินและการแก้ปัญหาน้ำ ว่าคนอื่น ๆ ที่ทำมานั้นเป็น “ของปลอม” แต่แท้ที่จริงแล้ว “บิ๊กตู่” เป็นผู้ไฟเขียว อนุมัติโครงการฯ ต่าง ๆ ให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม

แม้แต่เด็กดีอย่าง พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่ก่อนหน้านี้เป็น “เพื่อนแท้” ที่ค้ำยันบัลลังก์ “รัฐบาลประยุทธ์ 2” ให้ผ่านพ้นมาได้ตลอด 4 ปี โดยเฉพาะเกมในสภา ที่มีเสียง ส.ส. คอยสนับสนุนไม่ให้ “บิ๊กตู่” ตกสวรรค์มาหลายครั้ง โดยเฉพาะเหตุการณ์ “กบฏธรรมนัส” จากเหตุการณ์อภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อเดือน ก.ย. 64 ก็ถูก “รทสช.” เคลมผลงานในเรื่องสาธารณสุข จากกรณี “บัตรทองพรีเมียม” อัปเกรดจาก 30 บาทรักษาทุกโรค ที่พรรคภูมิใจไทย สามารถผลักดันจนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแล้ว

แต่ที่ทำให้ ฝั่งพรรคภูมิใจไทย ควันออกหูและอาจเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาจับมือร่วมรัฐบาลหลังเลือกตั้งหรือไม่ หลัง “เสธ.หิ” นายหิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงาน รทสช. และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค  ที่เปิดประตูทำเนียบให้ “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” เข้ามาแฉเรื่องเงินทอน 3 หมื่นล้าน จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม แถมยังพาดพิงไปที่ “ครูใหญ่” เนวิน ชิดชอบ ได้รับความเสียหาย และลามไปถึงการ สกัดนโยบายกัญชา ซึ่งเรื่องนี้ ทำให้ “บ้านใหญ่ จ.บุรีรัมย์” เดือดมาก และรับทราบว่า เรื่องนี้มี การเมืองอยู่เบื้องหลัง เป็นเกมการเมืองสกัดพรรคภูมิใจไทย

เช่นเดียวกับพรรคร่วมรัฐบาล อื่นๆ ในขณะนี้ ที่ ถูก “รทสช.” สกัด เพื่อหวังให้ตัวเองได้ คะแนน จากขั้ว “อนุรักษนิยม” เพียงฝ่ายเดียว สอดรับกับการปราศรัยของ “สามสี” นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี แกนนำ รสทช. ที่พยายามโยงว่า “รทสช.” คือฝั่งอนุรักษ์สุดโต่งเพียงพรรคเดียว ที่จะสามารถต่อสู้กับ “ระบอบทักษิณ” ได้

แต่หารู้ไม่ว่าหมากเกมนี้ หากสุดท้ายแล้ว “รทสช.” ไม่ชนะตามที่ตั้งเป้าไว้ ก็อาจจะถูกโดดเดี่ยว ไร้มิตรแท้ เป็นฝ่ายค้านเพียงลำพัง.