เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 มี.ค. ที่ด้านข้างทำเนียบรัฐบาล ถนนพิษณุโลก เขตดุสิต กทม. นายเศกศักดิ์ หุ่นสะอาด ตัวแทนกลุ่มพนักงาน BTS พร้อมด้วย กลุ่มพนักงาน BTS กว่า 300 ราย เดินทางมายื่นหนังสือที่สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาหนี้สิน จากการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยมีกำลังตำรวจจาก สน.นางเลิ้ง และ สน.ดุสิต ดูแลความเรียบร้อย

นายเศกศักดิ์ เปิดเผยก่อนเข้ายื่นหนังสือว่า ตนและพนักงานที่มาในวันนี้ (14 มี.ค.) ไม่ได้มาในฐานะตัวแทนของบริษัท แต่มาในตัวฐานะตัวแทนของพนักงานของรถไฟฟ้า ที่จะมาช่วยทางทีมผู้บริหารทวงถามถึงหนี้กว่า 5 หมื่นล้านบาท (ไม่นับรวมดอกเบี้ย) ของรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งวันนี้เป็นวันหยุดของพวกตน จึงไม่กระทบต่อการทำงานในภาพรวมของรถไฟฟ้า

ในทุกวันรถไฟฟ้ามีภาระค่าใช้จ่ายจำนวนมาก เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินรถ ค่าจ้างพนักงานประจำ และพนักงานนอก ซึ่งวันหนึ่งอาจต้องหยุดให้บริการเนื่องจากไม่มีเงินจ่ายสิ่งเหล่านั้น หากภายใน 7 วัน ยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ จากนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา และรัฐบาลชุดปัจจุบัน ทางพวกตนอาจจะมีมาตรการบางอย่าง ซึ่งเราต้องขออภัยพี่น้องประชาชน และผู้โดยสารมาในโอกาสนี้ด้วย

ทั้งนี้ ข้อความจากหนังสือร้องเรียนถึงนายกรัฐมนตรี ระบุว่า พนักงานบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ซึ่งเป็นคู่สัญญากับ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด หรือ KT ในการให้บริการสาธารณะ รับจ้างเดินรถไฟฟ้า สายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 และท่านได้มีคำสั่งในฐานะหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 3/2562 เพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับหนี้บริการสาธารณะดังกล่าวนั้น

นับแต่วันที่ท่านมีคำสั่งดังกล่าว และดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จนผ่านมาเป็นเวลากว่า 4 ปีแล้ว หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องมิได้ดำเนินการอย่างไรตามคำสั่งของท่านให้เกิดผลบรรลุตามวัตถุประสงค์ แม้บริษัทจะได้ฟ้องศาลปกครอง จนมีคำพิพากษาของศาลปกครองกลางให้หน่วยงานของรัฐชำระหนี้ตามสัญญาจ้างแล้ว หน่วยงานของรัฐก็ยังบ่ายเบี่ยง และประวิงเวลาโดยการอุทธรณ์คำ
พิพากษาต่อศาลปกครองสูงสุด แต่ยังให้บริษัทให้บริการสาธารณะอย่างต่อเนื่อง โดยมิได้ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการดำเนินการใด ๆ ของบริษัท

จนบัดนี้หนี้ค่าจ้างเดินรถสะสมเกือบ 50,000 ล้านบาท ย่อมส่งผลต่อสถานะทางการเงิน และการใช้จ่ายของบริษัท ซึ่งอาจรวมถึงการจ้างงานพวกข้าพเจ้าในอนาคต และการให้บริการสาธารณะต่อไปด้วย เหล่านี้เป็นผลกระทบจากการบริหารงานของรัฐบาลท่าน ที่ไม่บริหารจัดการให้หน่วยงานของรัฐ ดังกล่าวชำระหนี้แก่บริษัท จึงขอให้ท่านเร่งพิจารณา หาแนวทางช่วยเหลือ หรือแก้ไขปัญหาให้แล้วเสร็จ ภายในอายุของรัฐบาลชุดปัจจุบันเป็นการด่วน จึงกราบเรียนมาเพื่อขอความเมตตาดำเนินการแก้ไขปัญหา

ต่อมาเวลา 10.45 น. นายภูมินทร ปลั่งสมบัติ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เป็นตัวแทนออกมารับหนังสือร้องเรียนดังกล่าว