ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเริ่มประกาศผลผู้ผ่านสิทธิบัตรสวัสดิการฯ มาตั้งแต่ 1 มี.ค. 66 ล่าสุด มีผู้ยืนยันตัวตนผ่านแล้วกว่า 9 ล้านคน จากจำนวนผู้ใช้สิทธิ 14.59 ล้านคน และกระทรวงการคลัง เตรียมเปิดให้ใช้สิทธิประโยชน์ โครงการสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2566 ตั้งแต่ 1 เม.ย. เป็นต้นไป โดยมีการอัปเดตเพิ่มสิทธิประโยชน์ของผู้ถือบัตรสวัสดิการที่น่าสนใจดังนี้ 

อัปเกรดบัตรสวัสดิการ ดังนี้

1.วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษาและวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรมจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และร้านอื่น ๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด จำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน เพิ่มจากเดิมที่ให้ 200-300 บาท

2.วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าตามที่กระทรวงพลังงานกำหนด เพิ่มจาก 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน เป็น 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน

3.วงเงินรวมค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน โดยสามารถใช้โดยสารได้กับระบบขนส่ง 8 ประเภท ได้แก่(1) รถองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) (2) รถบริษัท ขนส่งจำกัด (บขส.) (3) รถไฟฟ้า บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพจำกัด (มหาชน) (Bangkok Mass Transit System : BTS) รถไฟฟ้ามหานคร (Metropolitan Rapid Transit : MRT) และบริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด (4) รถไฟ (5) รถเอกชนร่วม ขสมก. รถเอกชน และส่วนราชการกรุงเทพมหานคร (6) รถเอกชนร่วม บขส.และรถเอกชน (7) รถสองแถวรับจ้าง และ (8) เรือโดยสารสาธารณะ โดยไม่จำกัดวงเงินตามประเภทรถ

4.มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า อุดหนุนค่าไฟฟ้าจำนวน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน กรณีที่ใช้ไฟฟ้าเกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ได้รับสิทธิจะเป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมด

5.มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปาอุดหนุนค่าน้ำประปาจำนวน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน กรณีที่ใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท ผู้มีบัตรฯ ที่ได้รับสิทธิ ยังคงได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท และจะต้องชำระส่วนที่เกิน 100 บาท ด้วยตนเอง แต่หากผู้มีบัตรฯ ที่ได้รับสิทธิมีการใช้น้ำประปาเกิน 315 บาท ผู้มีบัตรฯ ที่ได้รับสิทธิจะเป็นผู้รับภาระค่าน้ำประปาทั้งหมด

6.เบี้ยผู้พิการเพิ่มเติม 200 บาทต่อเดือน สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ