วันที่ 22 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกับ สถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 9 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.ต.สวรรยา เอียดตรง สว.กก.6 บก.ป. พร้อมกำลังหนุมานกองปราบ พร้อมอาวุธหนักและเบาครบมือ และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ เปิดปฏิบัติการ “ถอนเขี้ยวราชสีห์” ปิดล้อมตรวจค้นและจับกุม ในพื้นที่ จ.ตรัง และ จ.สุราษฎร์ธานี จำนวน 10 จุด โดยได้จับกุมแก๊ง ที่ใช้ชื่อว่า “ราชสีห์นอกระบบ” ซึ่งเป็นแก๊งเงินกู้โหดในพื้นที่ จ.ตรัง จำนวน 10 ราย พร้อมทั้งทำการยึดตรวจสอบทรัพย์สิน

ปฏิบัติดังกล่าวสืบเนื่องจากปัญหาเงินกู้นอกระบบ เป็นปัญหาที่หยั่งรากลึกในสังคมไทยมาทุกยุคทุกสมัย อันเป็นต้นเหตุสู่อาชญากรรมที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งจะสามารถพบเห็นได้ตามแหล่งข่าวทั่วไป อาชญากรรมในลักษณะนี้ มีการลงทุนน้อย แต่ได้รับผลตอบแทนที่มาก ทำให้มีการขยายตัวขององค์กรที่ใหญ่ขึ้นและรวดเร็ว ยิ่งสร้างปัญหาอาชญากรรมในสังคม

ใน จ.ตรัง ก็มีกลุ่มเงินกู้นอกระบบที่ชื่อว่า “ราชสีห์นอกระบบ” ซึ่งมีการแบ่งหน้าที่กันทำในลักษณะองค์กรอาชญากรรม โดยมี นายรัตนะ เป็นหัวหน้า ได้ปล่อยเงินกู้นอกระบบหลายท้องที่ใน จ.ตรัง และใช้ความรุนแรงกับกลุ่มลูกค้า เป็นเหตุให้เกิดความกลัว บางรายได้รับอันตรายแก่กายสาหัส รวมถึงได้ยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ และบางรายนอกจากถูกข่มขู่แล้ว กลุ่มแก๊งนี้ยังมีการเสนอให้มีเพศสัมพันธ์แทนการปลดหนี้ แล้วได้โพสต์ภาพการกระทำความรุนแรง อาวุธปืน และข้อความข่มขู่ คุกคามทางเพศ ผ่านสื่อโซเชียลให้ลูกค้าเห็น อันเป็นการกระทำที่ดุดันไม่เกรงกลัวกฎหมาย

จากการสืบสวนพบว่า ประมาณเดือนเมษายน 2565 นายรัตนะ ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งได้ตั้งกลุ่มนี้ขึ้นมา โดยมียอดเงินทุนที่น้อย ประมาณหมื่นบาท แต่ด้วยปริมาณลูกค้า และอัตราดอกเบี้ยที่เก็บร้อยละ 3 ถึงร้อยละ 8 ต่อวัน ทำให้มีเงินหมุนเวียน จากที่เริ่มทำจนถึงปัจจุบันอย่างก้าวกระโดด ประมาณกว่า 4 ล้านบาท และได้ขยายกลุ่มแก๊งไปทั่วพื้นที่ จ.ตรัง ด้วยพฤติกรรมที่ได้ใช้ความรุนแรงที่ดุดันไม่เกรงใจกฎหมายในการทวงหนี้ ทำให้สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนเป็นอันมาก

เบื้องต้นทางกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม (กก.6 บก.ป.) จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลอนุมัติหมายจับ นายรัตนะ กับพวกรวม 10 คน โดยกล่าวหาว่า กระทำความผิดฐาน ความผิดตาม พ.ร.บ.ทวงถามหนี้, ความผิดฐานห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา และความผิดอาญาฐานซ่องโจร พร้อมทั้งตรวจยึดรถกระบะ 1 คัน รถเก๋งอีก 1 คัน และ จยย.อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นรถที่ใช้สำหรับขับขี่ทวงหนี้ลูกค้า โดยรถดังกล่าวจะมีสติกเกอร์คำว่า “ราชสีห์นอกระบบ” ติดอยู่ พร้อมทั้งได้ตรวจยึดอาวุธปืนทั้งยาว และสั้นได้อีกจำนวนหนึ่ง ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด 10 ราย เดินทางขึ้น กทม. เพื่อแถลงข่าวถึงรายละเอียดเพิ่มเติมในวันพรุ่งนี้ (22 มี.ค.) ต่อไป.