เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 29 ส.ค. บริเวณถนนสายเชียงใหม่-ลำปาง หน้าสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มมวลชนกว่าพันคน พร้อมยานพาหนะกว่า 200 คัน ออกมารวมตัวจัด “คาร์ม็อบ” ท่ามกลางสายฝนที่ตกโปรยปราย แต่กลุ่มมวลชนไม่ยอมยกเลิกแต่อย่างใด เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะให้ลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากบริหารประเทศทั้งเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวล้มเหลว รวมไปถึงการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ไม่สามารถดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมได้ ทำให้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในทุกวัน

โดยเมื่อเวลา 15.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนจากบริเวณหน้าสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ไปตามถนนสายเชียงใหม่-ลำปาง ก่อนวนเข้าบริเวณคูเมืองเชียงใหม่ จากนั้นมุ่งหน้าสู่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีการจำลองการใช้ถุงดำคลุมหัว ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความไม่มั่นใจในกระบวนการทางกฎหมายคดี ผกก.โจ้ ที่ใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหาจนเสียชีวิต แห่รอบเมืองเชียงใหม่ด้วย

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เตรียมพร้อมรับมือโดยจัดกำลังพลเฝ้าระวังพร้อมนำแบริเออร์มากั้นตามเส้นทางต่างๆ ที่จะมุ่งหน้าเข้าสู่ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่สนใจเมื่อเดินทางมาถึงได้ทำการรื้อแผงกั้นด่านแรกจนประจันหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีการขว้างสีใส่เจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทาง ก่อนกลุ่มมวลชนจะฝ่าเข้าไปพังประตูเข้าไปทำกิจกรรมการร้องเพลงชาติ และแจกชอล์ก สีสเปรย์ ทำการขีดเขียนและฉีดพ่นข้อความต่างๆ เพื่อเป็นการระบายความในใจในศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้สำเร็จ

สำหรับการรวมตัวครั้งนี้ ทางกลุ่มมวลชนยังยืนยันตามข้อเรียกร้องเดิมทั้ง 5 ข้อ คือ 1.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข 2.เปิดให้มีวัคซีนทางเลือกสำหรับประชาชนทุกคน 3.ตัดลดงบประมาณที่ไม่จำเป็นเร่งด่วนนำมาจัดซื้อวัคซีนสำหรับประชาชนทุกคน 4.เจ้าพนักงานของรัฐทุกภาคส่วนต้องยืนเคียงข้างประชาชน และ 5.จังหวัดจัดการตนเอง โดยข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อหลัก 2 ข้อย่อย ต้องได้รับการปฏิบัติจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องโดยทันที