จากกรณี พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เดินทางมาที่ สน.พหลโยธิน เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือ PDPA จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (27 มี.ค.) นายอัจฉริยะ แจ้งความที่กองบังคับการปราบปราม ให้ดำเนินคดีอาญากับตำรวจ 4 นาย ที่นำเงิน 6 ล้านบาท จากสารวัตรซัวไปมอบให้นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ซึ่งนายอัจฉริยะ ได้มีการนำรูปภาพของ พล.ต.ต.เอกรักษ์ มาเปิดเผย และให้สัมภาษณ์พาดพิงระบุชื่อ “พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการ ปปง.” ว่าเป็นคนนำเงินไปให้ และยังระบุว่า พบเส้นทางการเงินจากเว็บพนันออนไลน์โอนเข้าบัญชีของภรรยาของ พล.ต.ต.เอกรักษ์ หลายล้านบาทด้วย นั้น

ทำบุญล้างซวย! ‘เอกรักษ์’ ฟ้อง ‘อัฉริยะ’ 10ล้านบวกทวงหนี้เก่า ฉุนแฉหิ้วเงิน ‘สารวัตรซัว’

วันนี้ “เดลินิวส์ออนไลน์” ขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ “พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ” รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ผู้อุทิศตนเพื่อส่วนรวมและเส้นทางชีวิตรักที่งดงาม จนหลายคนต่างพากันยอมรับว่า เป็นผู้ดูแลรับใช้ประชาชนอย่างเต็มทีที่สุด

สำหรับ “พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ” ตำรวจน้ำดีฝีมือเยี่ยม ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (รองเลขาฯ ป.ป.ง.) ชื่อเล่น เอก โดยเกิดเมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2508 อายุ 57 ปี

ด้านการศึกษา พล.ต.ต.เอกรักษ์ ได้เรียบจบนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 41 (นรต.41) และเคยดำรงตำแหน่งผู้กำกับกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 และตำแหน่งผู้กำกับกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 9 ต่อมาเคยดำรงตำแหน่งผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลมักกะสัน รองผู้บังคับการอำนวยการกองบัญชาการตำรวจนครบาล ผู้บังการตำรวจภูธรจังหวัดอ่างทอง รองผู้บังคับการตำรวจจราจร

นอกจากนี้ ยังได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้บังคับบัญชาตำรวจภูธรภาค 6 (รอง ผบช.ภ.6) เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2561 ก่อนจะได้รับคำสั่งการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นรองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (รองเลขาฯ ปปง.) คนปัจจุบันตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2565

ด้านชีวิตส่วนตัว พล.ต.ต.เอกรักษ์ เป็นพ่อม่าย มีลูกชายกับอดีตภรรยา 1 คน ชื่อว่า “เบิร์ธ-ภานุรุจ ลิ้มสังกาศ” ต่อมาก็ได้พบรักครั้งใหม่ที่สถานีโรงพักบางเขน ที่มี “ชลลดา ลิ้มสังกาศ” เข้ามาฝึกงาน ก่อนจะตกลงคบหาดูใจและสมรสกันในเวลาต่อมา และได้ให้กำเนิดแก้วตาดวงใจสุดน่ารักถึง 2 คน โดยคนโตชื่อ “กัน-กันยกร ลิ้มสังกาศ” และคนรอง “วีกิจ-ฉัตรชนก ลิ้มสังกาศ” ถึงแม้ปัจจุบันจะแต่งงานและมีลูกกว่า 20 ปีแล้ว พล.ต.ต.เอกรักษ์ เองยังคงดำรงตำแหน่งและปฏิบัติงานอย่างสุดความสามารถจริง ๆ เรียกได้ว่าไม่มีข้อบกพร่องแม้แต่ข้อเดียว

ทั้งนี้ ภรรยาของ พล.ต.ต.เอกรักษ์ ยังเคยให้สัมภาษณ์กับทางนิตรยสารชื่อดัง โดยมีการเปิดใจถึงความรักสุดหวาน และเล่าวีรกรรมเดทครั้งแรกของทั้งคู่ที่จำไม่รู้ลืม ซึ่งเหตุการณ์วันนั้นทำให้เกือบไม่รอดชีวิตอีกด้วย เมื่อเขาทั้งคู่ดันไปเจอวัยรุ่นยกพวกตีกัน แต่จังหวะนั้นเป็นช่วงชุลมุน เธอถูก พล.ต.ต.เอกรักษ์ วิ่งเข้ามาและผลักเธอให้หลบอยู่ตรงบริเวณเสาไฟ ส่วนเจ้าตัวก็หายตัวไปทำหน้าที่ของตำรวจเพื่อประชาชน แต่ดันปล่อยเธอให้กลับบ้านเพียงลำพัง ถึงแม้จะถูกทิ้งไว้ตรงนั้นคนเดียว แต่เขายังแสดงความห่วงใย ด้วยการคอยโทรฯ ถามตลอด ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำเธอรู้สึกประทับใจในตัว พล.ต.ต.เอกรักษ์ มากที่สุดจนถึงทุกวันนี้

อย่างไรก็ตาม “พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ” นอกจากจะเป็นตำรวจที่อุทิศชีวิตเพื่อประชาชนแล้ว ปัจจุบันเขายังเปิด เพจคุยเรื่องจราจรกับเอกรักษ์ โดยให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายจราจรและรักษามาตรฐานความยุติธรรมแก่ประชาชนอีกด้วย….