เมื่อเวลา 10.25 น. วันที่ 5 เม.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ บุญยืนอนนต์ ผบก.ปส.1 พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส.บช.ปส. พล.ต.ต.สมกิต พุ่มวารี ผกก.ขส.บช.ปส. พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.ปส.3 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และ กอ.รมน. ร่วมกันแถลงกวาดล้างขบวนการค้ายาเสพติด 6 เครือข่าย ได้ผู้ต้องหารวม 15 คน พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 19 ล้านเม็ด ไอซ์ 9 กิโลกรัม เฮโรอีน 12 กิโลกรัม คีตามีน 2 กิโลกรัม และยาเสพติด happy water 86 ซอง

เครือข่ายแรกเมื่อวันที่ 30 มี.ค. 66 ตำรวจ กก.3 บก.ปส.1 และ บก.ขส. พร้อมด้วยหน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ จับกุมนายณัฐดนัย นายศุภกฤต และนายสำคัญ ทั้ง 3 (เจ้าหน้าที่ขอสงวนนามสกุล) ได้ของกลางยาบ้า 9 ล้านเม็ด รถกระบะ 2 คัน เจ้าหน้าที่สืบสวนทราบว่า มีเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญลำเลียงยาเสพติดจากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่กรุงเทพฯ โดยพบรถกระบะต้องสงสัยขับไปจอดที่บ้านเช่าแห่งหนึ่ง ในตำบลกุดน้ำใส อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น และผู้ต้องหาทั้งสาม ได้ขับรถตู้ทึบมายังห้องเช่าดังกล่าวช่วยกันเคลื่อนย้ายกระสอบต้องสงสัย เมื่อเข้าตรวจค้น จึงพบของการยาเสพติด นำตัวผู้ต้องหาพร้อมพนักงานพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน ปช.ปส. ดำเนินคดีร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ต่อไป

เครือข่ายที่ 2 เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 66 ตำรวจ บก.สกส. และ บก.ขส.บช.ปส. ร่วมกับตำรวจทางหลวงจับกุมนายสุรชัย และนายประจวบ (เจ้าหน้าที่ขอสงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาทั้งสองลักลอบลำเลียงยาเสพติดมาจากทางภาคเหนือ มาส่งต่อให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคกลางและพื้นที่ใกล้เคียงเป็นประจำ โดยใช้รถยนต์ 2 คัน เจ้าหน้าที่จึงติดตามจับกุมและสามารถจับกุมได้ภายในบริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท. สาขาหันตรา ต่อเนื่องริมถนนเลียบแม่น้ำลพบุรี (บางปะหัน-มหาราช) อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ของกลางยาบ้า 2 ล้านเม็ด โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย

เครือข่ายที่ 3 เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 66 ตำรวจ บก.สกส. จับกุมนายสุภชัย (ขอสงวนนามสกุล) หลังได้รับแจ้งว่านายสุภชัยกับพวก มีพฤติกรรมลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากจากพื้นที่ทางภาคเหนือมาส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง โดยใช้รถกระบะ 2 คัน ในการก่อเหตุ ใช้เส้นทางพื้นที่จังหวัดเชียงราย ผ่านจังหวัดแพร่ ตำรวจ บก.สกส. จึงวางแผนจับกุมได้ที่บริเวณริมถนนหมู่บ้านทุ่งแล้ง ตำบลทุ่งแล้ง อำเภอลอง จังหวัดแพร่ พบยาบ้าบรรจุในกระสอบ 20 กระสอบ รวมยาบ้า 4 ล้านเม็ด ดำเนินคดีร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย

เครือข่ายที่ 4 เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 66 ตำรวจ บก.สกส. จับกุมนายนรินทร์และนายพัลลภ (ขอสงวนนามสกุล) โดยชุดจับกุมเฝ้าติดตามพฤติกรรมของผู้ต้องหาทั้งสองพบว่า มีการลำเลียงยาเสพติดจากทางภาคเหนือไปส่งลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง จึงร่วมกันจับกุมได้ที่บริเวณห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในตำบลโคกสำโรง อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี พบยาบ้า 50 มัด ซุกซ่อนอยู่ในรถ รวม 100,000 เม็ด และตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง กล่าวหาว่า ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จากนั้นได้ทำการขยายผลพบว่าเครือข่ายนี้ได้ลำเลียงเฮโรอีนจากทางภาคเหนือไปส่งลูกค้าในภาคใต้ จึงทำการสกัดจับกุมนายไธพัตน์ และนายมนูญ (ขอสงวนนามสกุล) ได้ที่บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท. อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ของกลางเฮโรอีนน้ำหนัก 5 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ แจ้งข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เฮโรอีน) โดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย

เครือข่ายที่ 5 เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 66 ตำรวจได้ทำการจับกุมนายพัฒนพงศ์ นายสุวิทย์ และนายบุญโชค (ขอสงวนนามสกุล) ได้ที่ปั๊ม ปตท.ตำบลโตนด อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา พบยาบ้าจำนวน 8 กระสอบ รวม 3.2 ล้านเม็ด คีตามีน 2 กิโลกรัม และ happy water 86 ซอง แจ้งข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (คีตามีน)

และเครือข่ายที่ 6 ตำรวจ บก.ปส.3 จับกุม นายอดุลย์ และนายอเนก (สงวนนามสกุล) ที่ลำเลียงยาเสพติดมาจากทางภาคเหนือไปส่งให้ลูกค้าพื้นที่ภาคกลาง โดยจับกุมได้ที่บริเวณโกดังสินค้าตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย พบยาบ้า 9.9 แสนเม็ด ไอซ์ 9 กิโลกรัม และเฮโรอีน 7 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในรถ แจ้งข้อหา ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า, ไอซ์, เฮโรอีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย

ภายหลัง พล.ต.อ.ชินภัทร กล่าวว่า ส่วนใหญ่แล้วเครือข่ายค้ายาเสพติดมักจะซุกซ่อนยาเสพติดไว้ในรถยนต์ เพื่อหลบตาเจ้าหน้าที่ ที่ผ่านมาตำรวจพยายามตั้งจุดสกัดตรวจค้น แต่ก็ไม่สามารถที่จะตรวจค้นรถทุกคันได้ จึงต้องอาศัยทางด้านการข่าว ในการขอตรวจค้นรถที่ต้องสงสัย ส่วนช่วงสงกรานต์ที่จะถึงนี้ ได้กำชับทุกหน่วยงานตรวจตราเป็นพิเศษถึงการใช้ยาเสพติด ทั้งในสถานบันเทิงรวมถึงการจำหน่ายในพื้นที่ต่าง ๆ นอกจากนี้ ขอฝากเตือนประชาชนระมัดระวังในเรื่องของการดื่มสุราและใช้กัญชา และต้องขออภัยหากในช่วงเทศกาล เจ้าหน้าที่มีการตั้งด่านจุดตรวจค้น อาจจะส่งผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชนได้ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้ลักลอบขนยาเสพติด ฉวยโอกาสในช่วงเทศกาลนำยาเสพติดมาจำหน่ายในพื้นที่ภาคกลางได้.