เมื่อวันที่ 15 เม.ย. นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ กรมคุมประพฤติเน้นย้ำมาตรการสำหรับผู้กระทำผิดคดีขับรถขณะเมาสุรา โดยการจัดกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายจราจร การลด ละ เลิกแอลกอฮอล์ รวมถึงการทำงานบริการสังคม เพื่อสร้างจิตสำนึกและตระหนักถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการกระทำของตนและการป้องกันอุบัติเหตุ รวมทั้งยังมีการจำแนกความเสี่ยง หากพบว่ามีความเสี่ยงสูงในการติดสุรา จะถูกส่งไปบำบัดรักษา ณ สถานพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และหากมีแนวโน้มกระทำผิดซ้ำสูง คดีขับรถขณะเมาสุรา จะถูกส่งไปแก้ไขฟื้นฟูแบบเข้มข้นในรูปแบบค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ระยะเวลา 3 วัน ซึ่งหากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข อาจเสนอศาลให้เพิ่มเงื่อนไขการคุมความประพฤติตามความเหมาะสม

นายวีระกิตติ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 14 เม.ย. ที่ผ่านมา มีสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมความประพฤติ รวมทั้งสิ้น 334 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 315 คดี คดีขับรถประมาท 1 คดี และคดีขับเสพ 18 คดี ส่วนยอดรวมสะสม 4 วันของ 7 วันอันตราย มีจำนวน 3,681 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 3,462 คดี คิดเป็นร้อยละ 94.05 คดีขับรถประมาท 23 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.62 คดีขับซิ่ง 1 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.03 คดีขับเสพ 195 คดี คิดเป็นร้อยละ 5.3 โดยกรุงเทพมหานครมีคดีเมาขับสูงสุดอันดับหนึ่ง 233 คดี รองลงมา นนทบุรี 204 คดี และร้อยเอ็ด 164 คดี ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีเข้าสู่คุมประพฤติในวันที่ 4 ของ 7 วันอันตรายปี 2565 พบว่า คดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 492 คดี และปี 2566 จำนวน 315 คดี ลดลง 177 คดี คิดเป็นร้อยละ 35.97

นายวีระกิตติ์ กล่าวอีกว่า ในวันเดียวกันนี้ สำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศ ยังคงสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการให้บริการประชาชน โดยร่วมกับอาสาสมัครคุมประพฤติ ภาคีเครือข่าย และผู้ถูกคุมความประพฤติ พร้อมทั้งจัดให้มีการปรับภูมิทัศน์ทำความสะอาดตามจุดเสี่ยงในชุมชน การตรวจเยี่ยมด่าน แจกน้ำดื่ม ณ จุดบริการประชาชน ด่านตรวจค้นและด่านชุมชน จำนวน 94 จุด มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนทั้งสิ้น 2,688 คน เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกการจราจรแก่ประชาชน ให้เดินทางขับขี่ปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์.