เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ปคม. แถลงผลเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางร่วมกับตำรวจ กก.ตชด.24 จับกุม 12 ผู้ต้องหาสมาชิกเครือข่ายยาเสพติด “บาก้า” ดัดแปลงรถบรรทุก ซุกซ่อนยาไอซ์มูลค่ากว่า 650 ล้านบาท

พล.ต.ท.จิรภพ เปิดเผยว่า ขณะที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคม. สืบสวนจับกุมขบวนการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาประเทศโดยผิดกฎหมายได้รับแจ้งเบาะแสว่า จะมีการลำเลียงขนยาเสพติดลอตใหญ่มาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าพื้นที่กรุงเทพฯ ช่วงวันหยุดยาวระหว่างวันที่ 4-6 พ.ค. 66 โดยกลุ่มคนร้ายจะใช้รถ Honda CRV สีขาว ขับนำดูลาดเลาล่วงหน้า ส่วนรถลำเลียงขนส่งยาเสพติดจะใช้รถยนต์บรรทุก 6 ล้อ และจะมีรถกระบะ Chevrolet ปิดท้ายขบวน จึงสั่งการให้เฝ้าระวังรถยนต์และกลุ่มผู้ต้องสงสัย

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า กระทั่งรุ่งเช้าวันที่ 4 พ.ค. ที่ผ่านมา ตำรวจชุดจับกุมได้พบรถต้องสงสัยทั้ง 3 คัน บนถนนหมายเลข 2 มุ่งหน้าสีคิ้ว จึงประสานตำรวจทางหลวงสกัดจับรถทั้ง 3 คันไว้ได้ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 3.5 ต.ตลิ่งชัน อ.เมือง จ.สระบุรี จากการตรวจสอบพบยาไอซ์น้ำหนัก 650 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในพื้นกระบะรถบรรทุก 6 ล้อ คันสีฟ้า ซึ่งดัดแปลงตัวรถเพื่อซุกซ่อนยาเสพติด นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก กระสุน 15 นัด อยู่ภายในรถ Honda ซึ่งนายอนุรักษ์ หรือ แต๊ก (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปีหัวหน้าขบวนการ ยอมรับว่าเป็นของตนเอง เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมนายแต๊ก พร้อมผู้ร่วมกระทำความผิดที่โดยสารมาในรถยนต์ทั้ง 3 คัน รวม 12 คน

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวต่อว่า สอบสวนผู้ต้องหาบางรายให้การยอมรับว่า เป็นลูกน้องของนายแต๊ก และถูกนายแต๊ก ชักชวนให้มาขนยาเสพติด เพราะมีรายได้ดี อีกทั้งยังยอมรับว่าเคยขนยาเสพติดในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว 2 ครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละ 20,000 บาท ส่วนใหญ่จะทำหน้าที่ขนยาเสพติดขึ้นรถบรรทุก โดยนายแต๊กจะจ่ายค่าจ้างให้หลังจากเสร็จงาน นอกจากนี้ ผู้ต้องหาบางรายยังให้การเพิ่มเติมอีกว่า ได้มีการชักชวนญาติสนิทมาทำงานดังกล่าวด้วย เพราะหวังรายได้จากส่วนแบ่งในการขนยาเสพติด

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวอีกว่า ส่วนนายแต๊กให้การว่าเคยถูกจับกุมคดีพยายามฆ่า และเพิ่งพ้นโทษจำคุกออกมาเมื่อปี 52 ซึ่งในระหว่างจำคุกอยู่ในเรือนจำได้รู้จักกับเครือข่ายค้ายาเสพติด “บาก้า” และภายหลังจากพ้นโทษออกมาจึงติดต่อไปยังเครือข่าย “บาก้า” เพื่อรับทำหน้าที่เป็นหัวหน้าขบวนการขนส่งยาเสพติด โดยตนได้ชักชวนเยาวชนที่อยู่แถวละแวกบ้านให้มาช่วยขนยาเสพติด โดยให้ค่าจ้างเป็นจำนวนเงินที่สูง ซึ่งในการขนส่งยาเสพติดในแต่ละครั้ง ตนก็จะได้เงินค่าจ้างขนยาเสพติดจำนวนกว่า 300,000-350,000 บาท เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย” ขณะที่นายแต๊กเพิ่มข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนฯ” ก่อนควบคุมตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.