เมื่อวันที่ 9 พ.ค. นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย โดยเริ่มต้นตั้งคำถามว่า ทำไมพาสปอร์ตไทยจะไปยุโรป อเมริกา อังกฤษ จีน อินเดีย ตะวันออกกลาง หรือประเทศไหนๆ ต้องขอวีซ่า แต่นักท่องเที่ยวหลายประเทศ กลับสามารถเดินทางมาไทยได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องใช้ความพยายาม เพราะพบว่าคนไทยสามารถเดินทางเข้าไปยังต่างประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าได้เพียง 34 ประเทศ จากทั้งหมด 193 ประเทศทั่วโลก

ตรงกันข้ามกับญี่ปุ่นที่สามารถเดินทางไปได้ถึง 142 ประเทศ สาเหตุเพราะความล้มเหลวทางการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของรัฐบาลไทย โดยเฉพาะหลังการรัฐประหาร ปี 57 ที่จำนวนของประเทศที่คนไทยสามารถเดินทางเข้าได้ด้วยฟรีวีซ่าเพิ่มขึ้นเพียง 7 ประเทศเท่านั้น ในรอบเกือบ 10 ปี คือจาก 27 ประเทศ ในปี 57 เพิ่มขึ้นเป็น 34 ประเทศ ในปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นถึงศักดิ์ศรีของประเทศไทยในสังคมโลกที่ตกต่ำจนน่าใจหาย

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า ทันทีที่เป็นรัฐบาล ตนและเพื่อไทยจะออกเดินสายฟื้นฟูและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้เข้มแข็ง เสริมอิทธิพลหนังสือเดินทางไทยให้พ้นจากการเป็นอันดับที่ 70 ของโลก เปิดโอกาสให้คนไทยได้เดินทางไปได้ทั่วโลกโดยไม่ต้องขอวีซ่า และคืนศักดิ์ศรีให้ประเทศไทยกลับมายืนหยัดทัดเทียมกับนานาประเทศทั่วโลกได้อีกครั้ง เหมือนที่เพื่อไทยเคยคิดใหญ่ ทำเป็น และทำสำเร็จมาแล้วกับการยกเลิกการขอวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ

ทางด้าน นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กโดยได้สรุป 4 เหตุผลว่าทำไมต้องเลือกเพื่อไทยให้ชนะแบบถล่มทลาย หรือชนะแบบแลนด์สไลด์ ไม่ใช่เพียงชนะเลือกตั้งเท่านั้น 1.การเลือกตั้งครั้งนี้ เขายังมีตัวช่วยจาก ส.ว. 250 คน มาร่วมเลือกนายกฯ กับ ส.ส. 500 คน รวมแล้วหากได้เสียง 376 เสียง ของทั้งสองสภา 750 คน ก็เป็นนายกรัฐมนตรีได้ 2.การตั้งเป้าแลนด์สไลด์ ณ เริ่มต้นคือ ได้ ส.ส.เกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนฯ คือเกิน 250 เสียง ซึ่งเป็นหลักประกันว่าเป็นฝ่ายเสียงข้างมากของสภาผู้แทนราษฎร อันเป็นสภาที่จะผ่านกฎหมายและตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล

แม้เราจะมีเสียงข้างมากของสภาผู้แทนราษฎร ถ้าเขายังคิดจะเป็นนายกรัฐมนตรีให้ได้ ก็อาจจะผลักดันให้ ส.ว. โหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรี แม้จะรวมเสียงในสภาผู้แทนได้ไม่ถึง 250 คน ที่เรียกว่าเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย อย่างเช่น รวมเสียงในสภาผู้แทนราษฎรได้เพียง 180 จาก 500 เสียง ใช้เสียง ส.ว. อีก 196 คน ก็เป็นนายกรัฐมนตรีได้ หลังจากนั้นใช้วิธีการนอกระบบ แจกกล้วย หาทางยุบพรรค เพื่อดึง ส.ส.มาเป็นฝ่ายตน การเมืองไทยจะเข้าสู่ยุคมืดอีกครั้ง ไม่มีทางที่จะอยู่ได้ 2 ปี 3 เดือน ก็อยู่ไม่ได้ 4.การตั้งเป้าแลนด์สไลด์ไว้ที่ 250 เสียง จึงอาจใช้ไม่ได้กับพวกดันทุรัง เสลดติดคอ พวกยึดติดอำนาจ จึงต้องการชนะให้มากที่สุด โดยตั้งเป้าหมายไว้ที่ 310 เสียง โอกาสที่จะเกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อยจะเป็นไปแทบไม่ได้เลย

“ความคิดเรื่องแลนด์สไลด์ จึงไม่ได้เกิดมาเพื่อเอามัน สะใจ อยากชนะ หรืออย่างอื่นใด คิดจากบริบททางการเมืองตามสภาพความเป็นจริงของการสืบทอดอำนาจอันเป็นผลจากรัฐธรรมนูญฉบับโกงเสียเอง การชนะแบบถล่มทลาย Land Slide จึงเป็นกลยุทธสำคัญที่จะพาประเทศให้หลุดพ้นจากวงจรอุบาทว์ หลุดพ้นจากหลุมดำที่คณะรัฐประหารสร้างไว้ และประเทศไทยจะเปลี่ยนแปลงทันที” นายชูศักดิ์ ระบุ.