เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค พท. กล่าวถึงกรณี นายวันชัย สอนสิริ ส.ว. ระบุว่า พรรคที่ได้รับการเลือกตั้งอันดับ 1 อาจไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพราะขึ้นอยู่กับการรวบรวมเสียงเหมือนการเลือกตั้งปี 62 ว่าเป็นไปได้ตามหลักการรวบรวมเสียง แต่ถ้าตามหลักประชาธิปไตยยังไงก็ต้องเคารพเสียงประชาชน และพรรคการเมืองที่ได้ลำดับ 1 ไม่ว่าจะเป็นส.ส. หรือ ส.ว. การโหวตเลือกนายกฯ ก็ต้องฟังเสียงประชาชน ซึ่งการที่นายวันชัย ระบุว่า การได้เป็นพรรคอันดับ 1 อาจไม่ได้เป็นรัฐบาลเมื่อนำไปเทียบกับปี 62 ถือเป็นมาตรฐานที่ใช้ไม่ได้ ซึ่งครั้งที่แล้วถือเป็นบทเรียนว่าการเลือกนายกฯ แบบนั้น ทำให้มีปัญหามาจนถึงทุกวันนี้ ดังนั้น ครั้งนี้เป็นโอกาสที่ทุกคนจะเดินตามวิถีประชาธิปไตยให้มากที่สุด เว้นแต่ว่าเดินเต็มที่แล้วไม่ได้ ค่อยมาว่ากัน แต่ยังไงก็ต้องเดินตามวิถีประชาธิปไตย ต้องเคารพประชาชน

เมื่อถามถึงกรณีที่ ส.ว.อาจมีการงดออกเสียงโหวตเลือกนายกฯ จะทำให้เกิดปัญหาหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า หาก ส.ว.จะทำอย่างนั้นคงไปบังคับไม่ได้ ถือเป็นสิทธิ แต่ตนเชื่อว่า ส.ว.จะทำอะไรต้องคำนึงให้ประเทศเดินหน้าไปได้ ซึ่งวันนี้ก็เดินมาตามวิถีที่ถูกต้องแล้ว จากผลของการเลือกตั้ง ที่ได้เห็นเจตนารมณ์ของประชาชน ดังนั้น เราทุกส่วนก็ต้องทำตามเจตนารมณ์ของประชาชนให้บรรลุเป้าหมาย การออกเสียงใดที่บิดเบือนเจตนารมณ์ หรือทำให้เป้าหมายของประชาชนไปไม่ถึงก็ไม่ควรทำ

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า หาก ส.ว. งดออกเสียงจนไม่สามารถโหวตนายกฯ ได้ในครั้งแรกจะนำไปสู่การมีนายกฯ คนนอกหรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญมีความเป็นไปได้ แต่โดยข้อเท็จจริงจากเสียงที่ออกมา ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะเลยเถิดไปถึงขั้นนั้น เพราะคนที่ผ่านการเลือกตั้งมา ยังอยู่ในวิถีทางที่จะจบได้ คงไม่ไปถึงนายกฯ คนนอกแม้กฎหมายจะให้ พร้อมมองว่าหากจะเกิดความวุ่นวายก็มาจากการที่ ส.ว.ไม่ทำตามฉันทามติของประชาชน ทำให้ ส.ว.กับประชาชนเป็นคู่กรณีกัน ไม่ใช่วุ่นวายด้วยเหตุอื่น เพราะถ้า ส.ว.จะทำแบบนั้นจะทำให้ประเทศถึงทางตัน แต่เชื่อว่ายังไม่ถึงขั้นนั้น

เมื่อถามว่า บางพรรคการเมืองมองว่า พรรค พท. มีโอกาสเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล นายสุทิน กล่าวว่า ทุกพรรคก็มีโอกาส แต่โอกาสแรกต้องเป็นพรรคที่ได้เสียงอันดับ 1 ทุกคนต้องสนับสนุนและให้กำลังใจ ให้เขาจัดตั้งได้ ย้ำว่าอย่างไรก็ตาม อย่าหนีจากเสียงของประชาชน

เมื่อถามว่ามีเงื่อนไขใดหรือไม่ที่พรรค พท. จะไม่สามารถไม่ร่วมกับพรรคก้าวไกลได้ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่มี หากจะมีก็คือถ้ารวมกันไม่ได้จริงๆ ค่อยมาว่ากัน แต่วันนี้พรรค พท. ไม่มีอะไรกับพรรคก้าวไกล และยินดีสนับสนุน พร้อมกับเอาใจช่วยอย่างเต็มที่ รวมถึงตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับพรรคการเมืองอื่น เพราะต้องให้พรรคก้าวไกลทำหน้าที่ในการประสาน แต่หากมีกรณีใดที่พรรคก้าวไกลให้ช่วยก็ยินดี

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า พรรค พท. จะไปพูดคุยกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เพื่อดัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคเป็นนายกฯ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่มี และพรรค พท. ก็แถลงการณ์อย่างชัดเจนแล้ว หากไปทำอย่างนั้นประชาชนจะไม่ยอมรับ ซึ่งไม่มีประโยชน์ เราก็อยากทำงานกับพรรคที่ประชาชนยอมรับ เชื่อว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะอยู่ในช่วงเวลา 2 เดือน คิดว่าไม่นาน ภายใน 1 เดือนก็น่าจะเห็น

ทางด้าน นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค พท. เปิดเผยว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียดว่าทีมผู้บริหารพรรค พท. จะมีการนัดหมายหารือทิศทางการเมืองกับพรรคก้าวไกลเมื่อไร แต่เบื้องต้นพรรคได้มอบหมายให้ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พท. เป็นผู้ประสานงาน ส่วนจะพูดคุยกันวันนี้เลยหรือไม่นั้น ตนไม่แน่ใจ คงต้องแล้วแต่พรรคก้าวไกลด้วยว่าจะเอาอย่างไร ซึ่งคาดว่าเร็วๆ นี้คงจะได้ข้อสรุป

เมื่อถามว่านอกจากพรรคก้าวไกล เตรียมหารือร่วมพรรคการเมืองอื่นด้วยหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจ.