เมื่อวันที่ 22 พ.ค. จากกรณีโลกโซเซี่ยลเผยแพร่เรื่องราวความเชื่อสุดแปลกประหลาดของสำนักพราหมณ์ธรรมโชติหิรัญ ตั้งอยู่ที่หมู่ 7 บ้านหนองผักแผ่น ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยพราหมณ์เนาวรัตน์กชพร ศรีเมธาวงศ์ เจ้าสำนักโกนศีรษะ สวมเสื้อผ้าชุดไทยสีเหลือง และเรียกตัวเองว่า แม่พราหมณ์ นำชาวบ้านมาร่วมปิดทองรูปปั้นอวัยวะเพศชายและเพศหญิง และทำพิธีขอขมา สะเดาะเคราะห์ จะทำให้หลุดพ้นจากความทุกข์และเสริมบุญบารมี โดยอ้างว่าสิ่งที่เห็นเป็นไปตามตำราดูดวงตามศาสตร์ “คัมภีร์มหานาม” เพื่อรักษาเยียวยาจิตใจของผู้หญิงที่ประสบทุกข์ ถือเป็นหนึ่งในความเชื่อเรื่องการแก้กรรมจากการทำแท้งของผู้หญิง ที่เป็นเหตุให้ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต หากินไม่ขึ้น และเจ็บไข้ได้ป่วย

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามความคิดเห็นกับทางพระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี กล่าวว่า พระพุทธเจ้าไม่ยอมรับในเรื่องเหล่านี้ว่าจะเป็นเหตุทำให้พ้นทุกข์ได้ เรื่องความร่ำรวยเป็นเรื่องความเชื่อขั้นพื้นฐานของคนที่อยากรวย ทำให้คิดไปเองว่า เอาทองไปแปะตรงนั้นตรงนี้แล้วจะรวยขึ้น ถ้าให้เรียกตามสมัยใหม่ก็ต้องเรียกว่า ทัศนอุจาด เพราะเอาสิ่งที่ปกปิดมาเปิดเผย เอาสิ่งที่คนเขาอำพรางมาเปิดเผย ซึ่งลัทธิพรรค์นี้สมัยก่อนก็เคยมีเกิดขึ้นมาแล้ว การที่จะมาอ้างว่าเป็นองค์กำเนิดอะไรนั้น ก็ไม่ใช่ เพราะเมื่อคนเราเกิดมาแล้วก็กลายเป็นอดีต มั่ว แต่ไปยึดติดอยู่กับทางที่เราเกิด แต่ทำไมถึงไม่ยึดติดอยู่กับปัจจุบันในตอนนี้ว่าจะทำอย่างไรให้มีชีวิตที่ดีที่สุด ไม่ใช่มั่วแต่ท้าวภูมิหลังอยู่แต่ว่า เกิดมาจากจุดไหน ตรงไหน อะไรทำให้เกิด ซึ่งพระพุทธเจ้าก็สอนไว้แล้วว่า เพราะตัณหาจึงทำให้เกิดไม่ใช่อวัยวะ อวัยวะมีกันทุกคนแต่ถ้าคนที่ทำอุปสมบท อวัยวะเหล่านี้ถึงจะมีก็ไม่ต้องใช้ เรื่องนี้เป็นเรื่องของคนที่อยากตั้งตนเป็นศาสดา เป็นเจ้าลัทธิ จึงสร้างลัทธิขึ้นมา เป็นยุคที่เกลื่อนกลาดศาสดา แต่มาแล้วก็จะเสื่อมลง ดับลงไปเอง

บุกตรวจ ‘สำนักพราหมณ์ธรรมโชติหิรัญ’ แม่ชีเปิดให้กราบไหว้อวัยวะเพศชายหญิง

พระพยอม กล่าวอีกว่า หลักของเรามีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งสูงสุดอยู่แล้ว แต่ทำไมต้องไปพึ่งพาไอ้สิ่งที่ปั้นแต่งขึ้นมา ซึ่งคนไทยในสังคมจะมีอยู่ 3 แบบ คือ เห็นด้วยชื่นชอบ ไม่เห็นด้วยคัดค้าน และพวกเฉยๆ ไม่สนใจอะไร ลัทธิแบบนี้เกิดขึ้นมาได้สักพักแล้วก็จะเสื่อมดับไปเองเพราะถูกต่อต้าน เรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องตรวจสอบดูอย่าปล่อยไว้ อะไรที่ดูแล้วเป็นการกระทำที่หมิ่นเหม่ อุจาด ลามก ก็ไม่ควรปล่อยไว้ แล้วถ้าคนอยากรวยพระพุทธเจ้าก็สอนเอาไว้แล้วว่า อุ อา กะ สะ ซึ่งเป็นหัวใจเศรษฐีคือ ขยันหา รักษาทรัพย์ดี มีมิตรชี้ขุมทรัพย์ และใช้ชีวิตให้สมดุลกับรายได้ แต่ไม่ใช่การเอาทองไปแปะตรงนั้นตรงนี้แล้วจะรวยขึ้นมาได้ เป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผลเลย ใช้แต่ความเชื่อนำ โดยไม่สัมปยุตด้วยปัญญา เหมือนกับปล่อยให้ศรัทธาเดินนำไปโดดเดี่ยว แต่ปัญญาไม่ตามไปด้วย ก็จะพาเข้ารกเข้าพงแบบนี้