เมื่อวันที่ 22 พ.ค. จากกรณีโลกโซเชียลเผยแพร่เรื่องราวความเชื่อสุดแปลกประหลาดของสำนักพราหมณ์ธรรมโชติหิรัญ ตั้งอยู่ที่หมู่ 7 บ้านหนองผักแผ่น ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยพราหมณ์เนาวรัตน์กชพร ศรีเมธาวงศ์ เจ้าสำนัก โกนศีรษะ สวมเสื้อผ้าชุดไทยสีเหลือง และเรียกตัวเองว่า แม่พราหมณ์ โดยอ้างว่าสิ่งที่เห็นเป็นไปตามตำราดูดวงตามศาสตร์ “ คัมภีร์มหานาม” เพื่อรักษาเยียวยาจิตใจของผู้หญิงที่ประสบทุกข์ ถือเป็นหนึ่งในความเชื่อเรื่องการแก้กรรมจากการทำแท้งของผู้หญิง ที่เป็นเหตุให้ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต หากินไม่ขึ้น และเจ็บไข้ได้ป่วย

ที่ผ่านมามีผู้มีจิตศรัทธามักจะมาถือศีล 8 อาบน้ำมนต์ สะเดาะเคราะห์ เสียค่าทำพิธีคนละ 500 บาท เงินที่ได้นำมาเป็นค่าใช้จ่ายทะนุบำรุงสำนักพราหมณ์แห่งนี้ โดยเมื่อวันที่ 20 พ.ค. ที่ผ่านมา ฝ่ายปกครอง ร่วมกับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ และสำนักพุทธศาสนา ได้เข้าตรวจสอบและสั่งให้เคลื่อนย้ายพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ที่ตั้งอยู่ใกล้กับรูปปั้นอวัยวะเพศชายและหญิงออกไปให้ห่าง เวลาประชาชนถ่ายภาพจะทำให้เห็นภาพที่ไม่น่าดูอาจจะทำให้พุทธศาสนามัวหมองเสื่อมเสีย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เหมาะสมมั้ย? ชาวบ้านวิจารณ์ยับ ‘แม่ชีคนดัง’ เปิดสำนักปฏิบัติธรรมสอนกราบไหว้อวัยวะเพศ

ล่าสุด นายคณัสชนม์ ศรีเจริญ นายอำเภอปากช่อง จ.นครราชสีมา นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบสำนักพราหมณ์ธรรมโชติหิรัญอีกครั้ง จัดระเบียบเพื่อให้เป็นไปตามศีลธรรมอันดีงาม และขอความร่วมมือจากเจ้าสำนักพราหมณ์ธรรมโชติหิรัญ เนื่องจากในบางจุดยังมีป้ายข้อความที่ไม่เหมาะสมก็ขอให้แก้ไข ส่วนผู้มากราบไหว้รูปปั้นศิวลึงค์เพศชายและเพศหญิง ถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ยังไม่พบว่าเกิดความเสียหายแต่ประการใด ได้มอบหมายให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สอดส่องดูแลความผิดสังเกตและความเป็นระเบียบเรียบร้อย

แม่พราหมณ์เนาวรัตน์กชพร ศรีเมธาวงศ์ เจ้าสำนักพราหมณ์ธรรมโชติหิรัญ กล่าวว่า การมีผู้ศรัทธาเข้ามากราบไหว้รูปปั้นศิวลึงค์เพศชายและเพศหญิง คือเป็นต้นกำเนิดของชีวิตและความอุดมสมบูรณ์ของชีวิตในโลก ก็ถือเป็นเรื่องที่ไม่แปลก เพราะถือเป็นสิ่งเคารพบูชาอย่างหนึ่งของผู้นับถือศาสนาพราหมณ์ในอินเดียมาตั้งแต่โบราณ เมื่อ 5,000 ปีมาแล้ว หรือ 3,500 ปีก่อนคริสต์ศักราช เกิดขึ้นครั้งแรกที่บริเวณลุ่มแม่น้ำสินธุ ในแคว้นปัญจาบของอินเดีย และยังมีคำสอนให้เพศหญิงต้องให้ความเคารพสามีที่เป็นเพศชาย ถึงแม้นว่าปัจจุบันหญิงและชายจะมีสิทธิเท่าเทียมกันตามกฎหมายก็ตาม