เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 26 พ.ค. ที่สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เมืองทองธานี จ.นนทบุรี พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม. MS. BECKY KUO หัวหน้าแผนกประสานงานอาชญากรรมไต้หวัน ประจำประเทศไทย MR. CODY TUNG เลขานุการฝ่ายกฎหมายไต้หวัน ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญชาวไต้หวัน ที่เปิดบริษัทผลิตยารักษาโควิด-19 ในช่วงที่พบการระบาดหนักของโควิด-19 ปั่นหุ้นหลอกคนไต้หวัน หลบหนีกบดานในไทย

พล.ต.ท.ภาคภูมิ กล่าวว่า ทาง สตม. ได้รับการประสานงานจากสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย กรณีมีผู้ต้องหาตามหมายจับของสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) รายสำคัญ คือ MR.HUANG หรือ นายหวง อายุ 61 ปี สัญชาติจีน (ไต้หวัน) ซึ่งเป็นระดับหัวหน้า ได้ก่ออาชญากรรมหลอกลวงประชาชนคนไต้หวัน สร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก จนทางการไต้หวันประสานความร่วมมือในการติดตามจับกุม หลังทราบว่าหลบหนีเข้ามาในประเทศไทย

โดย MR.HUANG ได้จัดตั้งบริษัทเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับยา ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 หลังจากมีการเปิดบริษัทแล้ว ได้นำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ และให้ผู้ร่วมขบวนการทำการเปิดบริษัทที่อยู่ในต่างประเทศ ทำการเข้าซื้อหุ้นของบริษัทดังกล่าว และทำรายงานอันเป็นเท็จเพื่อเผยแพร่ ให้กับประชาชนเพื่อหลอกลวงให้ประชาชนเข้าซื้อหุ้น โดยราคาของหุ้นจะถูกปั่นไปจนถึง 500,000 กว่าบาทต่อ1,000 หุ้น และหลังจากที่มีประชาชนซื้อหุ้นแล้ว ได้โยกเงินไปยังต่างประเทศแล้ว ทำการปิดบริษัท แล้วหลบหนีออกนอกประเทศ เบื้องต้นมีผู้เสียหายมากกว่า 10,000 ราย ความเสียหายมากกว่า 23,000 ล้านบาท

จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ต.สิทธิมณ สร้อยภู่ระย้า สว.กก.4 บก.สส.สตม. นำทีมสืบสวนในการหาเบาะแสในการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนจนทราบว่า MR.HUANG ถือหนังสือเดินทางของประเทศวานูอาตู เดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 5 ก.พ. 64 ด้วยวีซ่า THAILANDPRIVILEGE CARD และหลบซ่อนตัวอยู่ในคอนโดฯ หรูแห่งหนึ่งในย่านประตูน้ำ กทม. จึงได้ทำการติดตามจนพบตัว MR.HUANG ซึ่งเป็นบุคคลเดียวกันกับบุคคลตามหมายจับสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และถูกเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทยเป็นการชั่วคราว อยู่บริเวณริมถนนย่านประตูน้ำ จึงทำการตรวจค้นจับกุม จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัว MR.HUANG ไปตรวจค้นห้องพัก พบเงินสดจำนวน 1 ล้านบาท, โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง, บัตรประชาชนของประเทศสิงคโปร์ และบัตรเครดิตอีกหลายรายการ 

จากการสอบสวน MR.HUANG ให้การยอมรับว่า หลังปิดบริษัท ได้หลบหนีออกมาจากไต้หวันไปที่ประเทศสิงคโปร์ จากนั้นได้ทำหนังสือเดินทางประเทศวานูอาตู เพื่อหลบหนีเข้ามายังประเทศไทย ซึ่งหลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและหัวหน้าแผนกประสานงานอาชญากรรมประจำประเทศไทย กองบัญชาการตำรวจสืบสวนอาชญากรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติไต้หวัน ได้ร่วมทำการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม และทำการยึดทรัพย์ของผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 60 ล้านบาท ออกหมายจับกลุ่มผู้ร่วมขบวนการได้อีก 29 ราย โดยจับกุมได้แล้ว 27 ราย ก่อนนำตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อรอการส่งกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศไต้หวันต่อไป