เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ศูนย์วิทยุ 191 ภ.จว.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุผัวฆ่าเมียด้วยการเผาทั้งเป็น ภายในบ้านที่บ้านเลขที่ 88/9 บ้านคำภูเงิน หมู่ 9 ต.บ้านตาด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี หลังรับแจ้งเหตุ พ.ต.อ.วิทยากรณ์ ษมากรวิทิต ผกก.สภ.ดงเย็น ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.จำลอง ทับสีแก้ว รอง ผกก.(สอบสวน) ร.ต.อ.บุญหนัก สุทธิบริบาล รอง สว.(สอบสวน) พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยมีกำนัน ต.บ้านตาด และผู้ใหญ่บ้านคำภูเงิน เจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.บ้านตาด อาสากู้ภัยสว่างเมธาธรรมสถาน จุดบริการบ้านดุง ร่วมกันเข้าดับไฟ และควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ ในสภาพผัวนอนกอดศพเมียอยู่ในที่เกิดเหตุ

ต่อมา พ.ต.อ.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พร้อมด้วยตำรวจพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง บ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว หลังคามุงสังกะสี สภาพทรุดโทรม ที่บริเวณหลังบ้าน พบศพ นางศรีนวล อายุ 68 ปี สัญชาติเมียนมา นอนตะแคงซ้าย ร่างกายถูกเผาด้วยน้ำมันจนไหม้เกรียม ตรงช่วงกลางลำตัวทั่วร่างกายด้านขวา มีร่องรอยการถูกไฟลวก รอบบริเวณบ้านไม่มีร่องรอยการต่อสู้ ส่วนผู้ก่อเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหน ทราบชื่อว่า นายสมร บุญเกิด หรือหวาย อายุ 60 ปี สามีนางศรีนวล เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ยังอยู่ในอาการมึนเมาให้การสับสน ก่อนควบคุมตัวไปทำการสอบสวนเพิ่มเติมที่โรงพัก

นายสมร ให้การว่า ตนเองและภรรยาอยู่กินมานานประมาณ 3 ปี พบรักกันที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ตอนนั้นตนเองไปรับจ้างขับรถทัวร์ ก่อนตัดสินใจพากันมาอยู่ที่บ้านเกิดของตน หลังมาอยู่ได้ไม่นาน ภรรยาก็ป่วยเป็นโรคไทรอยด์ ทำให้แขนขาอ่อนแรง ลุกเดินไม่ค่อยสะดวก ก่อนลุกลามขึ้นตา จนทำให้ตาทั้งสองข้างปูดบวมมองไม่ค่อยเห็น ตนเองก็รับจ้างทั่วไปเพื่อหาเงินมาดูแลรักษาภรรยา ซึ่งภรรยาเองก็บ่นน้อยใจชะตาชีวิต อยากตายไปให้พ้นจากโรคร้าย ตนเองก็หาทางออกไม่ได้เช่นกัน

“ผมก็ป่วยเป็นโรคหัวใจ สติผมก็ไม่ค่อยดี ก่อนเกิดเหตุตอนเช้า ผมไปซื้อเหล้าขาวขวดเล็กมาดื่ม หลังจากหาข้าวปลาให้เมียแล้ว ก็เข้าไปพูดคุยตกลงกันว่า จะฆ่าตัวตายพร้อมกัน ผมจึงบอกว่ามีแต่น้ำมันนะ เขาก็บอกให้เอามาราดเลย จึงเดินไปหยิบเอาน้ำมันโซล่าของหลานที่เตรียมไว้เติมรถไถที่อยู่บ้านข้างกัน มาทำการราดที่เมียและตัวเอง ก่อนจะมีคนเข้ามาดับไฟและช่วยผม ผมและเมียอยากตายมานานแล้ว ชีวิตมันทุกข์ยากมันลำบากเหลือเกิน ตนเองอยากตายมาก ให้ช่วยฆ่าตนเองทิ้งด้วย” นายหวาย กล่าว

นายบัญญัติ ฤทธานุศร อายุ 63 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุเจ้าของร้านค้าวิ่งมาบอกตนว่า นายหวายเผาบ้าน จึงวิ่งไปดูก็พบว่า ที่หลังบ้านมีไฟลุกท่วมร่างของผู้ตายแล้ว จึงวิ่งไปหาน้ำมาดับไฟ คนอื่นๆ ก็วิ่งมาช่วยกัน ซึ่งนายหวาย ก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน ทั้งคู่ไม่ค่อยทะเลาะกันให้เห็น แต่นายหวายมีนิสัยชอบดื่มสุราและดื่มจนเมามาแล้วประมาณ 2 วัน ส่วนภรรยาก็ป่วยมานานมากแล้ว เดินไปไหนมาไหนไม่ค่อยสะดวก ตามองไม่ค่อยเห็น ไม่รู้ว่าทำไมถึงเกิดเรื่องร้ายขึ้น รู้สึกเศร้าสลดใจมากที่เกิดเรื่องแบบนี้ในหมู่บ้าน

นางเพ็ญมณี ผาจวง อายุ 61 ปี เจ้าของร้านชำตรงข้ามบ้านที่เกิดเหตุ เล่าว่า ตนรู้จักนายหวายมานาน เพราะเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน หลังจากนายหวายพานางศรีนวลกลับมาอยู่บ้านไม่นาน นางศรีนวลก็ป่วย ตนก็ช่วยเหลืออยู่ตลอด มักจะนำข้าวปลาอาหารไปให้ตอนมื้อเช้าเป็นประจำ ส่วนนายหวายก็ออกไปทำงานรับจ้าง และมักจะแวะมาซื้อเหล้าขาวดื่มทุกวัน เช้ามืดที่ผ่านมา นายหวายออกมาซื้อเหล้าขาว 1 ขวดเล็ก แล้วเล่าความฝันให้ฟังว่า มีตำรวจมาจับ ตนก็ไม่สนใจ กลับตีเป็นหวยไปด้วยซ้ำ แล้วเขาก็เดินกลับบ้านไป

“ไม่นานนายหวายเดินกลับมา แล้วบอกว่าภรรยาตายแล้ว ก็ตกใจแต่ยังไม่เห็นไฟไหม้ จึงวิ่งไปบอกนายบัญญัติ ให้ช่วยเข้าไปดูหน่อย พอกลับมาที่บ้านก็ได้ยินเสียงอยู่ภายในบ้านของนายหวายดังอึก อึก อึก ก็ไม่รู้ว่าเป็นเสียงอะไร หลังจากนั้นก็มีไฟลุกไหม้ ไม่กล้าเข้าไปดูกับชาวบ้านเพราะกลัวมาก ที่ผ่านมา นางศรีนวลก็จะมานั่งปรับทุกข์ด้วย บ่นเป็นประจำว่าอยากตาย ส่วนนายหวาย เวลาเมาก็มักจะมาบอกว่าเดี๋ยวเมียตนเองก็จะตายแล้ว พอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นรู้สึกตกใจมาก ไม่นึกว่าจะมีเกิดเรื่องสะเทือนขวัญแบบนี้” เจ้าของร้านชำ กล่าว

เบื้องต้นตำรวจตรวจปัสสาวะผู้ต้องหาเพื่อหาสารเสพติดแต่ไม่พบ ส่วนเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ตรวจยึดหลักฐานต่างๆ รวมทั้งขวดน้ำมัน 2 ขวด ไว้ตรวจสอบ ส่วนเอกสารของผู้ตาย พนักงานสอบสวนได้เก็บรักษาไว้ที่ สภ.ดงเย็น และให้อาสากู้ภัยนำศพผู้เสียชีวิตไปเก็บรักษาไว้ที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชบ้านดุง เพื่อให้แพทย์ชันสูตรอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุการตายให้แน่ชัด เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าว “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” นำตัวส่งพนักงานสอบดำเนินคดีตามกฎหมาย.